บริหารจัดการอาคาร: เคล็ดไม่ลับการวางตำแหน่งติดแอร์ที่ดีแอร์หรือเครื่องปรับอากาศ ถือว่าเป็นเครื่องใช้ไฟฟ้าชนิดหนึ่ง มีหน่วยเป็น BTU สามารถปรับอุณภูมิของอากาศในสถานที่ ทำให้ที่อาศัยไม่ร้อน เย็น จนเกินไป หรือ จะรักษาสภาวะอากาศให้คงที่ และ ยิ่งบ้านเรามีอากาศที่ร้อนอบอ้าว ก็มักจะนำเครื่องปรับอากาศมาใช้เพื่อลดอุณภูมิให้เย็นลง เครื่องปรับอากาศมีทั้งแบบติดผนัง และแบบเคลื่อนที่ จะทำงานในรูปแบบการถ่ายเทความร้อน รวมไปถึงยังสามารถฟอกอากาศให้บริสุทธิ์ได้ด้วย จะให้ความเย็น หรือ ระบบการใช้งานที่แตกต่างกันไป ขึ้นอยู่กับว่าผู้ใช้สะดวกที่จะใช้แบบไหน เครื่องปรับอากาศในปัจจุบันนั้นได้วางขายอยู่มากมายหลากหลาย จนบางครั้งอาจจะเลือกไม่ถูก และ ไม่รู้ว่าซื้อแล้วจะดีไหม แต่สิ่งที่สำคัญมากอีกปัจจัยหนึ่งคือ การติดตั้งแอร์ในตำแหน่งที่เหมาะสม
เพื่อให้ความเย็นได้กระะจายไปทั่วห้องและยังไม่ทำให้แอร์ต้องทำงานหนักอีกด้วย นอกจากนี้ การติดตั้งคอมเพรสเซอร์ ควรจะหาพื้นที่ติดตั้งคอมเพรสเซอร์แอร์ ให้อยู่ในบริเวณที่เหมาะสมด้วย ซึ่งควรหลีกเลี่ยงบริเวณที่เป็นพื้นปูน หรือ ดาดฟ้า รวมถึงพื้นที่อื่น ๆ ที่ได้รับแสงแดดโดยตรง รวมทั้งมุมอับ ที่อากาศไม่ค่อยถ่ายเท เพราะคอมเพรสเซอร์แอร์นั้น เป็นตัวระบายความร้อน จึงควรอยู่ในที่ร่ม แนะนำว่าควรอย่างยิ่งที่จะยกสูงขึ้น เหนือพื้นที่ปกติ เพื่อให้อากาศจากคอมเพรสเซอร์ ถ่ายเทได้ดียิ่งขึ้น เมื่อคอมเพรสเซอร์ทำงานได้มีประสิทธิภาพมากขึ้น และไม่เปลืองไฟด้วย แต่ในวันนี้ ทางเราจะมาพูดถึงการวางตำแหน่งแอร์ในบ้านให้เหมาะสม ซึ่งเป็นอีกหนึ่งเทคนิคที่ช่วยทำให้แอร์กระจายความเย็นไปทั่วห้อง เพื่อให้คนในบ้านรู้สึกเย็นสบายและช่วยประหยัดค่าไฟอีกด้วย
หลายบ้านประสบปัญหาในเรื่องของแอร์ไม่เย็น ซึ่งมีด้วยกันหลายปัจจัย ไม่ว่าจะเป็นความสกปรกของแอร์ อุณหภูมิที่ใช้ หรือ ตำแหน่งการติดตั้งแอร์ ซึ่งทั้งหมดนี้มีความสำคัญอย่างมากในเรื่องของการใช้งาน แต่วันนี้เราจะมาพูดถึงการวางตำแหน่งของแอร์ให้เหมาะสม ซึ่งหลายคนคิดแค่ว่า วางตรงไหนที่ทำให้แอร์ตกมาที่ตัวเองมากที่สุด เพื่อให้ช่วยเย็นสบาย ซึ่งเป็นความเข้าใจที่ผิด เพราะการวางตำแหน่งแอร์จะมีเคล็ดลับที่ช่วยทำให้ความเย็นกระจายไปทั่วห้อง และไม่ทำให้แอร์ทำงานหนักด้วย สำหรับเคล็ดลับแรกคือ ไม่ควรติดตั้งแอร์บนศีรษะและปลายเตียง
ข้อนี้สิ่งสำคัญมาก เพราะเป็นตำแหน่งที่ปล่อยลมออกมาปะทะร่างกายและศีรษะโดยตรง อาจเป็นต้นเหตุให้เกิดปัญหาสุขภาพได้ สำหรับทิศทางลมจากเครื่องปรับอากาศที่สวนจากปลายเท้าขึ้นมาทางศีรษะ ลมเย็นจะพัดสวนเข้าจมูกตลอด หากเครื่องปรับอากาศไม่ได้ทำความสะอาดนานๆ อากาศที่เป่าออกจากแอร์จะมีความชื้นและเชื้อโรคตามมาด้วย ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งที่ทำให้ระบบหายใจทำงานผิดปกติ มีโอกาสเป็นหวัดเรื้อรัง เกิดโรคภูมิแพ้ได้ง่าย อีกทั้งการติดตั้งแอร์ไว้บนหัวเตียง จะทำให้ตอนนอนรู้สึกเหมือนมีอะไรกดทับอยู่ ส่งผลให้รู้สึกไม่ปลอดภัย นอกจากนี้ ตำแหน่งเหนือประตูห้อง คือจุดที่ไม่ควรติดตั้งแอร์ เพราะการเปิด-ปิด ประตูแต่ละครั้งจะทำให้ความเย็นออกจากห้องนอนได้ง่าย อุณหภูมิใกล้ประตูไม่คงที่ ส่งผลให้เครื่องปรับอากาศเย็นช้า ระบบเซ็นเซอร์ของเครื่องปรับอากาศทำงานหนักและเปลืองค่าไฟอีกด้วย นอกจากนี้ เครื่องทำความเย็นทุกๆ ประเภท ไม่ควรติดตั้งในจุดที่โดนแสงแดดหรือมีเครื่องทำความร้อน
โดยเฉพาะผนังบ้านทางทิศใต้และทิศตะวันตก ซึ่งเป็นทิศที่รับแสงแดดเกือบตลอดทั้งวัน ไม่เพียงแค่ทำให้แอร์ทำงานหนักขึ้น จะทำให้ค่าไฟก็ขยับตามขึ้นด้วย หากบางห้องไม่สามารถเลี่ยงในการติดตั้งในทิศดังกล่าวได้ อาจเลือกซื้อเครื่องปรับอากาศชนิดฝังฝ้าเพดานแทนได้ และทริคอีกอย่างหนึ่งคือ เราควรเลือกตำแหน่งที่กระจายลมได้ไกล โดยห้องแต่ละห้องจะมีรูปร่างและขนาดต่างกัน
วิธีการมองหาจุดติดตั้งแอร์มีหลักการใกล้เคียงกันคือ ติดตั้งมุมที่เครื่องปรับอากาศสามารถกระจายลมเย็นไปทั่วทั้งห้องได้ ไม่ติดตั้งในมุมอับ เพราะการกระจายความเย็นอาจทำได้ไม่ดีเท่าที่ควร เช่น ห้องสี่เหลี่ยมผืนผ้า ตำแหน่งติดตั้งควรอยู่ในตำแหน่งผนังแนวยาว เพื่อให้ความเย็นที่ออกมากระจายไปทางซ้ายและขวาของห้องได้อย่างทั่วถึง และสำหรับตำแหน่งที่เหมาะสมมากที่สุดคือ ผนังด้านที่ตั้งฉากกับเตียง ให้ทิศทางลมจากตัวเครื่องพัดขวางลำตัวในเวลานอน อาจติดตั้งเครื่องปรับอากาศให้ตรงบริเวณกลางเตียงหรือขยับเยื้องค่อนไปทางปลายเตียงเล็กน้อย จะช่วยลดความเสี่ยงในการเกิดโรคภูมิแพ้หรือระบบทางเดินหายใจได้ แถมยังช่วยทำให้เย็น หลับสบายมากที่สุด
ทั้งนี้ทางเราอยากให้ทุกคนได้เลือกเครื่องปรับอากาศที่มีประสิทธิภาพในการใช้งานที่เหมาะสม ทางเรามีบริการทำความสะอาดพื้นที่สาธารณะ ระบบการจัดการอาคารหรือระบบทำความเย็นภายในอาคาร เพื่อที่จะได้สามารถใช้งานเครื่องปรับอากาศในสถานที่ที่มีคนจำนวนมากได้อย่างมีประสิทธิภาพ เพราะเราถือว่า ระบบปรับอากาศและหมุนเวียนอากาศเป็นสิ่งจำเป็นมาก เพราะผู้คนส่วนใหญ่ในปัจจุบันมักจะใช้ชีวิตในภายในอาคาร นั่นถือว่าเป็นสิ่งสำคัญ เพราะถ้าเราได้สูดอากาศที่บริสุทธิ์และสะอาดเข้าไป ก็จะทำให้เรามีสุขภาพที่ดี สามารถใช้ชีวิตประจำวันได้สดชื่น สบายมากขึ้นได้