เวบบอร์ดโพสฟรี , ลงประกาศฟรี Post ฟรี , ลงประกาศฟรีไม่ต้องสมัคร , เว็บประกาศฟรีติดอันดับ
		หมวดหมู่ทั่วไป => โปรโมทสินค้าฟรี ซื้อ  ขาย เช่า บริการ => ข้อความที่เริ่มโดย: siritidaphon ที่ วันที่ 22 มิถุนายน  2025, 21:07:59 น.
		
			
			- 
				Doctor At Home: ภาวะโพแทสเซียมในเลือดต่ำ (Hypokalemia) (https://doctorathome.com/) 
 
 ภาวะโพแทสเซียมในเลือดต่ำ (Hypokalemia) คือ ภาวะที่ระดับแร่ธาตุโพแทสเซียมในเลือดต่ำกว่าปกติ ค่าโพแทสเซียมปกติในเลือดของผู้ใหญ่จะอยู่ที่ประมาณ 3.5 – 5.0 mEq/L หรือ mmol/L หากค่าต่ำกว่า 3.5 mEq/L ถือว่าเป็นภาวะโพแทสเซียมในเลือดต่ำ
 
 โพแทสเซียมเป็นแร่ธาตุสำคัญที่ช่วยในการทำงานของเซลล์ กล้ามเนื้อ และระบบประสาท โดยเฉพาะอย่างยิ่งมีบทบาทสำคัญต่อการทำงานของ กล้ามเนื้อหัวใจ หากมีระดับโพแทสเซียมต่ำกว่าปกติมาก อาจส่งผลกระทบต่อการทำงานของอวัยวะสำคัญ และเป็นอันตรายถึงชีวิตได้
 
 สาเหตุหลักของภาวะโพแทสเซียมในเลือดต่ำ
 ภาวะโพแทสเซียมในเลือดต่ำมักเกิดจากการที่ร่างกายสูญเสียโพแทสเซียมมากเกินไป หรือได้รับโพแทสเซียมไม่เพียงพอ ซึ่งมีหลายสาเหตุ ดังนี้:
 
 การสูญเสียโพแทสเซียมออกทางปัสสาวะ:
 ยาขับปัสสาวะ (Diuretics): เป็นสาเหตุที่พบบ่อยที่สุด โดยเฉพาะยาขับปัสสาวะบางชนิดที่ใช้รักษาโรคความดันโลหิตสูง หรือโรคหัวใจ เช่น Thiazide diuretics หรือ Loop diuretics
 โรคไตบางชนิด: ความผิดปกติของไตบางอย่างอาจทำให้ไตขับโพแทสเซียมออกมากเกินไป
 ภาวะฮอร์โมนผิดปกติ: เช่น ภาวะมีฮอร์โมน Aldosterone สูงเกินไป (Hyperaldosteronism) ซึ่งทำให้ไตขับโพแทสเซียมออกมากขึ้น
 การสูญเสียโพแทสเซียมออกทางระบบทางเดินอาหาร:
 อาเจียนอย่างรุนแรงและต่อเนื่อง: ทำให้ร่างกายสูญเสียน้ำและเกลือแร่ รวมถึงโพแทสเซียม
 ท้องเสียอย่างรุนแรงและเรื้อรัง: เป็นสาเหตุสำคัญที่ทำให้ร่างกายสูญเสียโพแทสเซียมจำนวนมาก
 การใช้ยาระบายมากเกินไป หรือติดต่อกันนานเกินไป: ทำให้เกิดการขับถ่ายบ่อยและสูญเสียโพแทสเซียม
 การเคลื่อนย้ายโพแทสเซียมจากนอกเซลล์เข้าสู่ภายในเซลล์:
 การรักษาภาวะเลือดเป็นกรด (Metabolic Acidosis): เช่น การให้ Insulin ในผู้ป่วยเบาหวานที่มีภาวะเลือดเป็นกรด (Diabetic Ketoacidosis) จะทำให้โพแทสเซียมเคลื่อนเข้าสู่เซลล์
 การใช้ยาบางชนิด: เช่น ยารักษาโรคหอบหืดบางชนิด (Beta-2 agonists) เช่น Salbutamol หรือ Theophylline
 โรคอัมพาตเหตุโพแทสเซียมต่ำ (Hypokalemic Periodic Paralysis): เป็นภาวะทางพันธุกรรมที่ทำให้โพแทสเซียมเคลื่อนเข้าสู่เซลล์อย่างรวดเร็ว ทำให้เกิดอาการอ่อนแรงหรือเป็นอัมพาตชั่วคราว มักถูกกระตุ้นโดยการออกกำลังกายหนัก หรือการรับประทานอาหารที่มีคาร์โบไฮเดรตสูง
 ได้รับโพแทสเซียมไม่เพียงพอ:
 การรับประทานอาหารที่มีโพแทสเซียมต่ำมากเป็นเวลานาน: พบน้อย แต่ก็เป็นไปได้ในผู้ที่เลือกรับประทานอาหารอย่างจำกัดมาก
 ภาวะทุพโภชนาการ: โดยเฉพาะในผู้ป่วยติดสุราเรื้อรัง
 อาการของภาวะโพแทสเซียมในเลือดต่ำ
 อาการของภาวะโพแทสเซียมในเลือดต่ำจะแตกต่างกันไปตามระดับความรุนแรง:
 
 ระดับเล็กน้อย (โพแทสเซียม 3.0-3.5 mEq/L):
 มักจะไม่มีอาการ หรือมีอาการไม่รุนแรง เช่น อ่อนเพลียเล็กน้อย
 ท้องผูก
 ระดับปานกลาง (โพแทสเซียม 2.5-3.0 mEq/L):
 กล้ามเนื้ออ่อนแรง: โดยเฉพาะกล้ามเนื้อขา แขน อาจรู้สึกปวดเมื่อย หรือเป็นตะคริวบ่อยๆ
 ท้องผูก หรือ ลำไส้เคลื่อนไหวลดลง (Paralytic Ileus)
 รู้สึกเหนื่อยล้า อ่อนเพลีย
 ปัสสาวะบ่อย กระหายน้ำบ่อย
 ระดับรุนแรง (โพแทสเซียม < 2.5 mEq/L):
 กล้ามเนื้ออ่อนแรงรุนแรง: จนอาจเป็นอัมพาตชั่วคราวได้ โดยเฉพาะกล้ามเนื้อแขนขา
 หายใจลำบาก หรือหายใจล้มเหลว: หากกล้ามเนื้อที่ควบคุมการหายใจอ่อนแรงมาก
 ภาวะหัวใจเต้นผิดจังหวะ (Arrhythmias): เป็นอาการที่อันตรายที่สุด อาจทำให้หัวใจหยุดเต้นและเสียชีวิตได้
 เวียนหัว หน้ามืด เป็นลม
 
 การวินิจฉัย
 
 แพทย์จะวินิจฉัยจาก:
 
 การซักประวัติ: สอบถามอาการ ยาที่ใช้ ประวัติการเจ็บป่วย
 การตรวจร่างกาย: ประเมินความแข็งแรงของกล้ามเนื้อ, การเต้นของหัวใจ
 การตรวจเลือด: เพื่อวัดระดับโพแทสเซียมในเลือด ซึ่งเป็นวิธีที่ยืนยันภาวะนี้ได้
 การตรวจคลื่นไฟฟ้าหัวใจ (EKG/ECG): เพื่อดูความผิดปกติของการเต้นของหัวใจที่เกิดจากโพแทสเซียมต่ำ
 
 การรักษา
 การรักษาภาวะโพแทสเซียมในเลือดต่ำต้องทำควบคู่ไปกับการแก้ไขสาเหตุ และให้โพแทสเซียมชดเชย:
 
 รักษาตามสาเหตุ:
 หากเกิดจากการใช้ยาขับปัสสาวะ แพทย์อาจปรับขนาดยา เปลี่ยนชนิดยา หรือให้ยาเสริมโพแทสเซียมร่วมด้วย
 หากเกิดจากอาเจียนหรือท้องเสียรุนแรง ต้องรักษาอาการทางเดินอาหารและให้สารน้ำชดเชย
 หากมีโรคประจำตัวที่ทำให้โพแทสเซียมต่ำ ต้องรักษาโรคต้นเหตุ
 
 ให้โพแทสเซียมชดเชย:
 ในรูปยากิน: หากระดับโพแทสเซียมไม่ต่ำมาก หรืออาการไม่รุนแรง อาจให้รับประทานยาเม็ดโพแทสเซียมคลอไรด์ (KCl) เสริม
 ในรูปยาฉีดเข้าหลอดเลือดดำ (Intravenous Infusion): สำหรับผู้ป่วยที่มีภาวะโพแทสเซียมต่ำรุนแรง มีอาการมาก หรือมีภาวะหัวใจเต้นผิดจังหวะ โดยจะให้ Potassium Chloride (KCl) ผสมกับสารน้ำอย่างช้าๆ และต้องเฝ้าระวังอย่างใกล้ชิด เนื่องจากหากให้เร็วเกินไปอาจทำให้เกิดภาวะโพแทสเซียมในเลือดสูงเกินไป ซึ่งอันตรายได้เช่นกัน
 
 การป้องกัน
 รับประทานอาหารที่มีโพแทสเซียมสูง: โดยเฉพาะผู้ที่ใช้ยาขับปัสสาวะบางชนิด ควรปรึกษาแพทย์หรือนักโภชนาการ
 แหล่งอาหาร: ผักและผลไม้หลายชนิด เช่น กล้วย ส้ม อะโวคาโด มะเขือเทศ มันฝรั่ง ผักใบเขียวเข้ม ถั่วต่างๆ เนื้อสัตว์ ปลา นม
 ดื่มน้ำให้เพียงพอ: โดยเฉพาะเมื่อมีภาวะท้องเสีย หรืออาเจียน
 ไม่ใช้ยาระบายเกินความจำเป็น: ควรใช้ภายใต้คำแนะนำของแพทย์เท่านั้น
 ปรึกษาแพทย์เกี่ยวกับยาที่ใช้อยู่: หากมียาที่ต้องรับประทานเป็นประจำ ควรสอบถามแพทย์ถึงผลข้างเคียงที่อาจส่งผลต่อระดับโพแทสเซียม
 
 หากคุณมีอาการที่น่าสงสัยว่าอาจเกิดจากภาวะโพแทสเซียมในเลือดต่ำ ควรปรึกษาแพทย์เพื่อรับการวินิจฉัยและรักษาที่ถูกต้องโดยเร็วที่สุด เพราะภาวะนี้หากรุนแรงอาจเป็นอันตรายต่อชีวิตได้ครับ