แสดงกระทู้

This section allows you to view all posts made by this member. Note that you can only see posts made in areas you currently have access to.


Messages - siritidaphon

หน้า: [1] 2 3 ... 53
1
ผลกระทบที่เกิดขึ้นจากเสียงดัง
ในโรงงานอุตสาหกรรม
โรงงานหรือสถานประกอบกิจการที่มีปัญหาด้านเสียงเกินค่ามาตรฐาน อาจสร้างผลกระทบทั้งด้านอาชีวอนามัยและความปลอดภัยในการทำงานต่อพนักงานในโรงงานเอง หรืออาจก่อให้เกิดมลพิษทางเสียงต่อชุมชนและสภาพแวดล้อมที่อยู่ด้านนอกโรงงาน หากเจ้าของแหล่งกำเนิดเสียงหรือผู้เกี่ยวข้องปล่อยปละละเลย ไม่จัดทำโครงการควบคุมเสียงหรือแก้ไขปัญหาดังกล่าวไม่สำเร็จ จะทำให้มีผลกระทบตามมา เช่น
•   เป็นผู้กระทำผิดกฎหมายด้านเสียง มีทั้งโทษปรับและจำคุก
•   ลูกจ้างอาจเกิดภาวะสูญเสียการได้ยินแบบชั่วคราวหรือแบบถาวร
•   ประสิทธิภาพการทำงานของพนักงานลดลงจากเสียงเกินค่ามาตรฐาน
•   ถูกร้องเรียนจากชุมชนหรือผู้ได้รับผลกระทบทางเสียงที่อยู่นอกโรงงาน
•   โรงงานหรือสถานประกอบกิจการอาจถูกสั่งปิดปรับปรุง จนกว่าจะแก้ไขแล้วเสร็จ

ทำไมต้องใช้บริการจาก
“NEWTECH INSULATION” ในการควบคุมเสียง?
ด้วยประสบการณ์กว่า 15 ปี ในการควบคุมเสียงอุตสาหกรรม เรามีความพร้อมทั้งด้านบุคลากรเฉพาะทางที่มีความรู้ด้านเสียงและความสั่นสะเทือน เครื่องมืออันทันสมัยที่ได้มาตรฐานตามที่กฎหมายกำหนด รวมถึงประสบการณ์ด้านการแก้ไขปัญหาเสียงอุตสาหกรรมที่มีทั้งในและต่างประเทศ ผู้ใช้บริการจึงมั่นใจได้ว่าปัญหาด้านเสียงในโรงงานหรือสถานประกอบกิจการจะได้รับการแก้ไขได้อย่างตรงจุด ด้วยค่าใช้จ่ายที่น้อยที่สุด เพราะเราเป็นผู้เชี่ยวชาญด้านการควบคุมเสียงในอุตสาหกรรม
– บริษัทฯ ขึ้นทะเบียนและได้รับใบอนุญาตเป็นนิติบุคคลผู้ให้บริการตรวจวัดและวิเคราะห์สภาวะการทำงานเกี่ยวกับระดับเสียง โดยกรมสวัสดิการและคุ้มครองแรงงาน
– บุคลากรของบริษัทฯ ได้รับใบอนุญาตเป็นผู้ควบคุมมลพิษเสียงและความสั่นสะเทือน จากสภาวิชาชีพวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี
– มีทีมงานที่มากประสบการณ์และความรู้ ได้แก่ วิศวกร นักสิ่งแวดล้อมอุตสาหกรรม เจ้าหน้าที่ความปลอดภัยในการทำงาน ช่างเทคนิค รวมไปถึงช่างประกอบและติดตั้งระบบควบคุมเสียง
– มีเครื่องมือที่ได้มาตรฐานไว้ให้บริการทั้งด้านฮาร์ดแวร์และซอฟต์แวร์
– มีสินค้าสำหรับควบคุมเสียงและความสั่นสะเทือนให้เลือกหลากหลายรูปแบบ เช่น ผนังกันเสียง ห้องเก็บเสียง ม่านกันเสียง ตู้ครอบลดเสียง แจ็คเก็ตลดเสียง ไซเลนเซอร์ อคูสติคลูเวอร์ อุปกรณ์แยกความสั่นสะเทือน เป็นต้น
– มีการประเมินหรือทำตัวแบบจำลองระดับเสียง ก่อน-หลัง ปรับปรุงให้ลูกค้าใช้เป็นข้อมูลในการตัดสินใจ ช่วยประหยัดค่าใช้จ่ายและเวลาในการแก้ปัญหาด้านเสียง
– รับประกันระดับเสียงที่ลดลง อยู่ในเกณฑ์ที่กฎหมายกำหนด
– รับประกันคุณภาพสินค้าและฝีมือการติดตั้งทุกงาน

บริษัท นิวเทค อินซูเลชั่น จำกัด
ผู้เชี่ยวชาญด้านการควบคุมเสียงในโรงงานอุตสาหกรรม
จากประสบการณ์ในการแก้ไขปัญหาด้านเสียงมายาวนาน ไม่ว่าจะเป็นเสียงทางอาชีวอนามัยและความปลอดภัยในการทำงาน และเสียงทางสิ่งแวดล้อม
ทางบริษัทฯ ยินดีให้คำแนะนำที่ทำได้จริงสำหรับการแก้ปัญหาด้านมลภาวะทางเสียงที่เกิดขึ้น เพื่อให้ทั้งโรงงาน พนักงาน หรือชุมชนโดยรอบอยู่ร่วมกันได้
“เพราะเรา…เข้าใจเรื่องเสียง”


สนใจสั่งซื้อ
เบอร์โทร:  02-583-8035 , 02-583-8034, 098-995-4650
E-mail: contact@newtechinsulation.com
Line ID: @newtechinsulation
Facebook: newtechthai
Instagram: newtechinsulation
เว็บไซด์: https://www.noisecontrol365.com/


2
ปล่อยรถราคาพิเศษ BMW ix xDrive 50 Sport รับรถ 0บาท ผ่อน 70,xxx.

บีเอ็มดับเบิลยู BMW i X xDrive50 Sport ปี 2022
BMW iX xDrive50 Sport ใหม่ ขับเคลื่อนด้วยขุมพลัง BMW eDrive เจเนอเรชันที่ 5 พร้อมระบบขับเคลื่อนสี่ล้อแบบไฟฟ้า BMW xDrive Electric ติดตั้งมอเตอร์ไฟฟ้าจำนวน 2 ตัว ที่ให้กำลังรวมสูงสุด 523 แรงม้า แรงบิดสูงสุด 765 นิวตัน-เมตร สามารถเร่งความเร็วจาก 0-100 กม./ชม. ได้ในเวลา 4.6 วินาที ทำความเร็วสูงสุดได้ 200 กม./ชม. เสริมด้วยระบบป้องกันการลื่นไถลของล้อ (Near-actuator wheel slip limitation) ทำงานคู่กับระบบขับเคลื่อนสี่ล้อเป็นครั้งแรก (ราคาขายรวม BSI STANDARD Package)

หมายเหตุ : รายละเอียดของรถยนตอ์าจมีการเปลี่ยนแปลงภายหลัง

รถผู้บริหาร รถทดลองขับ ไมล์น้อย ราคาและโปรโมชั่นพิเศษ

โปรโมชั่นพิเศษ
ตั้งแต่ 18 มี.ค. - 31 มี.ค. 2568
รับรถ 0บาท ผ่อน 70,xxx.  จัดในนามบริษัทสามารถนำค่างวดไปหักเป็นค่าใช้จ่ายภาษีได้สูงสุดเดือนละ 36,000

ราคาพิเศษ 4,450,000 บาท

สนใจสอบถามรายละเอียดกดลิ้ง https://www.checkraka.com/flashdeal/car

ข้อมูลทั่วไป

มอเตอร์ไฟฟ้า
มอเตอร์ไฟฟ้า 523 แรงม้า มอเตอร์ไฟฟ้าแรงบิดสูงสุด  765 นิวตันเมตร อัตราเร่ง 0-100 กม./ชม. ภายใน 4.6 วินาทีความเร็วสูงสุด 200 กม./ชม. ระยะทางขับเคลื่่อนไฟฟ้า1, มาตรฐาน NEDC 570 กิโลเมตร, ระยะทางขับเคลื่่อนไฟฟ้า1, มาตรฐาน WLTP 549 - 630 กิโลเมตร

กำลังเครื่องยนต์ (แรงม้า)        523 แรงม้า
ระบบเกียร์                          เกียร์อัตโนมัติ
รูปแบบเกียร์                        ไฟฟ้า
ระบบเบรค ABS                    มี
ชนิดแบตเตอรี่                      ไฟฟ้า
ความจุแบตเตอรี่                    N/A
ระยะทางวิ่ง/การชาร์จ 1 ครั้ง     630 กิโลเมตร
น้ำหนักตัวรถ                            -
ประเภทยางรถยนต์                     -
ขนาดล้อ (นิ้ว)
ระบบขับเคลื่อน                   ขับเคลื่อนสี่ล้อ (BMW xDrive electric all-wheel drive)


3
ปล่อยรถป้ายแดง MAZDA CX-5 2.0 SP ปี 2024 รับส่วนลดเพิ่ม 20,000 บาท

มาสด้า Mazda CX-5 2.0 SP ปี 2024
Mazda CX-5 2.0 SP รถยนต์ครอสโอเวอร์เอสยูวียอดนิยมของมาสด้า ที่ได้รับการพัฒนาให้ครบครันสมบูรณ์แบบขึ้นในทุกด้าน เพื่อตอบโจทย์ของครอบครัวยุคใหม่ ดูหรูหรา สปอร์ต โฉบเฉี่ยว ยิ่งกว่าเดิม ด้วยดีไซน์ภายนอกใหม่ อุปกรณ์อำนวยความสะดวกสบาย รองรับการเชื่อมต่อเพิ่มเติมมาตั้งแต่รุ่นเริ่มต้น ผนวกกับสมรรถนะจากเครื่องยนต์ Skyactiv-G 2.0 ลิตร ให้กำลัง 165 แรงม้า แรงบิด 210 นิวตันเมตร รองรับน้ำมันเชื้อเพลิง E85 ประหยัดน้ำมันเชื้อเพลิง 13.9 กิโลเมตร/ลิตร โดยราคาเริ่มต้นประมาณ 1,250,000-1,350,000 บาท

หมายเหตุ : รายละเอียดของรถยนตอ์าจมีการเปลี่ยนแปลงภายหลัง

รถผู้บริหาร รถทดลองขับ ไมล์น้อย ราคาและโปรโมชั่นพิเศษ

โปรโมชั่นพิเศษ
ตั้งแต่ 19 มี.ค. - 19 มี.ค. 2568
พิเศษสำหรับลูกค้า Checkraka รับส่วนลดเพิ่ม 20,000 บาท
โปรโมชั่นพิเศษ ดาวน์ 25% ขึ้นรับดอกเบี้ยพิเศษ 1.75% 4 ปี

ราคาพิเศษ 1,169,000 บาท

สนใจสอบถามรายละเอียดกดลิ้ง https://www.checkraka.com/flashdeal/car

ข้อมูลทั่วไป

เครื่องยนต์                        SKYACTIV-G 2.0 DOHC 4 สูบ 16 วาล์ว พร้อมระบบวาล์วแปรผันคู่ Dual S-VT
ขนาดเครื่องยนต์ (CC)          1,998 CC
กำลังเครื่องยนต์ (แรงม้า)       165 แรงม้า
ระบบเกียร์                          เกียร์ออโต้ 6AT
รูปแบบเกียร์                       SkyActiv-Drive พร้อมแมนนวลโหมด Activematic
ระบบเบรค ABS                  มี (พร้อมระบบกระจายแรงเบรก EBD และระบบเสริมแรงเบรก BA)
ประเภทน้ำมันเชื้อเพลิง           เบนซิน 95,เบนซิน 91,แก๊สโซฮอล์ 95 (E10),แก๊สโซฮอล์ 91,เบนซิน E20,เบนซิน E85
ความจุถังน้ำมัน (ลิตร)            N/A
ระบบจ่ายน้ำมัน                    Electronic Direct Injection
น้ำหนักตัวรถ                          -
ประเภทยางรถยนต์                   -
ขนาดล้อ (นิ้ว)                    ล้ออัลลอย (19 นิ้ว)
ระบบขับเคลื่อน                   ขับเคลื่อนล้อหน้า


4
ศูนย์ข้อมูลโควิด-19: Social Distancing เว้นระยะห่างอย่างไร ปลอดภัยจาก COVID-19

คำว่า Social Distancing หรือการเว้นระยะห่างทางสังคม คงเป็นคำคุ้นหูในสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรค COVID-19 หลายคนต้องเว้นระยะห่างกับคนในครอบครัว เพื่อน หรือคนอื่น ๆ ที่พบปะในชีวิตประจำวันมากเป็นเท่าตัว แล้วรู้หรือไม่ว่า Social Distancing นั้นช่วยป้องกันโรคได้อย่างไร ห่างกันแค่ไหนถึงจะปลอดภัย 

โดยทั่วไปแล้ว Social Distancing เป็นหนึ่งในมาตรการสำคัญที่ช่วยลดการแพร่กระจายของเชื้อก่อโรคโควิด-19 และโรคติดเชื้อในระบบทางเดินหายใจชนิดอื่น อย่างไข้หวัดหรือไข้หวัดใหญ่ โดยเป็นการสร้างระยะห่างและลดการเผชิญหน้า สัมผัส หรือใกล้ชิดผู้อื่นที่พบเจอขณะทำกิจกรรมต่าง ๆ ในชีวิตประจำวัน ไม่ว่าจะเป็นการพูดคุย การรับประทานอาหาร การทำงาน หรือการเดินทาง ถือเป็นวิธีปฏิบัติที่เริ่มต้นได้ไม่ยากอย่างที่คิดและทำได้หลายทาง     


Social Distancing จำเป็นอย่างไร ?

Social Distancing อาจดูเป็นเรื่องยุ่งยากและสร้างความลำบากในการใช้ชีวิต แต่จริง ๆ แล้ว วิธีการนี้เป็นประโยชน์อย่างมาก เนื่องจากเชื้อก่อโรค COVID-19 นั้นสามารถแพร่กระจายจากคนสู่คนได้หลายวิธี เช่น การสูดดมละอองที่มีเชื้อปะปนในอากาศจากการพูดคุย ไอ จาม โดยเฉพาะหากอยู่ใกล้ชิดกันอย่างมากหรือมีระยะห่างระหว่างกันน้อยกว่า 2 เมตร รวมไปถึงการสัมผัสละอองที่มีเชื้อจากบนพื้นผิวสิ่งของหรือวัสดุต่าง ๆ ที่อาจติดอยู่ได้นานหลายชั่วโมงหรือหลายวัน ก่อนจะนำมือนั้นมาสัมผัสปาก จมูก หรือดวงตาของตัวเอง เป็นต้น

อีกทั้งผู้ป่วยโรคโควิด-19 ยังสามารถแพร่กระจายเชื้อไปสู่ผู้อื่นได้แม้ว่าจะไม่มีอาการผิดปกติแสดงออกมาให้เห็น ยิ่งหากคนที่อยู่ใกล้นั้นเป็นผู้สูงอายุและผู้ที่มีโรคประจำตัวก็จะเสี่ยงต่อการเกิดอาการที่รุนแรงหลังการติดเชื้อมากกว่าคนกลุ่มอื่น แต่ถ้าเราเว้นระยะห่างระหว่างกันอยู่เสมอ ทั้งขณะอยู่ภายในบ้านหรือออกไปในที่สาธารณะ โอกาสในการรับเชื้อโรคเข้าสู่ร่างกายตัวเองและคนในครอบครัวก็จะลดน้อยลง ร่างกายก็จะปลอดภัยจากการติดเชื้อได้มากขึ้นด้วย

   
Social Distancing วิธีที่ทำได้ทุกวัน 

การทำ Social Distancing ที่ช่วยให้เราห่างไกลจากโรค COVID-19 ไม่ใช่แค่การยืนหรือนั่งเก้าอี้ห่างกันกับคนอื่นเท่านั้น แต่วิธีเว้นระยะห่างนั้นมีหลากหลายและสามารถเลือกปฏิบัติได้ตามความเหมาะสมของแต่คน เช่น

    ลดการออกจากบ้านให้ได้มากที่สุดโดยเฉพาะเด็กและผู้สูงอายุ และให้ติดต่อสื่อสารกันผ่านทางโทรศัพท์หรือช่องทางออนไลน์อื่น ๆ แทน
    ลดการสัมผัสตัวคนในครัวอย่างการจับมือ กอด หรือหอมแก้ม โดยเฉพาะคนที่ต้องออกไปนอกบ้านและยังไม่ได้ทำความสะอาดร่างกาย
    เว้นระยะห่างกับคนอื่น ๆ อย่างน้อย 1–2 เมตร ในระหว่างการใช้ชีวิตประจำวัน
    เปลี่ยนมาทำงานที่บ้าน และประชุมงานผ่านระบบอินเทอร์เน็ตแทน
    หลีกเลี่ยงสถานที่แออัด บริเวณที่มีคนพลุกพล่านอยู่ตลอด หรือพื้นที่ปิด อาทิ โรงภาพยนตร์ ห้างสรรพสินค้า หรือตลาดนัด
    หลีกเลี่ยงการสัมผัสสิ่งต่าง ๆ ในที่สาธารณะ เช่น ลูกบิดประตู ราวบันได ปุ่มกดลิฟต์ หรือราวจับบนรถโดยสาร เป็นต้น หากเลี่ยงไม่ได้ควรทำความสะอาดมือด้วยน้ำและสบู่เสมอหรือเจลแอลกอฮอล์

ทั้งนี้ วิธีเว้นระยะห่างข้างต้นจะมีประสิทธิภาพมากขึ้นหากทำควบคู่ไปกับการสวมหน้ากากอนามัยเมื่อออกไปนอกบ้าน หมั่นล้างมือด้วยน้ำและสบู่อย่างน้อย 20 วินาที หากไม่สะดวกสามารถใช้เจลแอลกอฮอล์ที่มีความเข้มข้นอย่างน้อย 60 เปอร์เซ็นต์ทดแทน ปิดปากขณะไอหรือจามด้วยผ้าเช็ดหน้าหรือกระดาษทิชชู่ ไม่นำมือมาสัมผัสดวงตา จมูก ปาก นอนหลับพักผ่อนให้เพียงพอ และรับประทานอาหารที่เป็นประโยชน์ต่อสุขภาพ

สุดท้ายนี้ หากตัวเองหรือคนในครอบครัวมีอาการผิดปกติหรืออาการที่อาจเข่าข่ายโรค COVID-19 อย่างมีไข้ ไอ หายใจลำบาก อ่อนเพลีย หรือปวดกล้ามเนื้อ ควรแจ้งให้เจ้าหน้าที่ แพทย์ หรือสถานพยาบาลทราบ เพื่อเข้าสู่กระบวนการดูแล รักษา และป้องกันตามขั้นตอนที่ถูกต้องและรัดกุมที่สุด

5
ตับอักเสบเกิดจากอะไร ระวังยาที่กินประจำอาจทำร้ายตับได้

ตับอักเสบเกิดจากอะไร อีกหนึ่งคำถามสุดน่าสนใจที่เราทุกคนควรรู้เอาไว้ในช่วงหน้าร้อน เพราะเมื่อเข้าสู่ฤดูดังกล่าว หลายคนอาจมองว่าความกังวลใจมีแค่เพียงเรื่องแดดแรงหรือโรคฮีทสโตรกเท่านั้น แต่รู้หรือไม่ว่า “ตับอักเสบ” ก็เป็นอีกหนึ่งโรคที่พบได้บ่อยในช่วงนี้ และกำลังกลายเป็นปัญหาสุขภาพที่ไม่ควรมองข้าม โดยเฉพาะในกลุ่มคนที่ทานยาบางชนิดเป็นประจำ หรือมีพฤติกรรมเสี่ยง เช่น การดื่มแอลกอฮอล์ การกินอาหารสุก ๆ ดิบ ๆ รวมถึงคนที่ชอบใช้ยาสมุนไพรแบบไม่ผ่านการตรวจสอบ

แม้ว่า “ตับ” จะเป็นอวัยวะที่ไม่มีเส้นประสาทรับความเจ็บปวด ทำให้หลายคนไม่รู้เลยว่าตับกำลังมีปัญหา จนกระทั่งอาการลุกลามมากขึ้นเรื่อย ๆ การรู้เท่าทันตั้งแต่เนิ่น ๆ ว่า “ตับอักเสบเกิดจากอะไร” และสังเกตความผิดปกติเล็กน้อยในร่างกายได้ตั้งแต่ระยะแรก จึงเป็นกุญแจสำคัญที่ช่วยให้คุณดูแลสุขภาพตับไว้ได้อย่างยั่งยืน

บทความนี้ ร้านยา เอ็กซ์ต้า พลัส จะพาทุกคนมาทำความเข้าใจ โรคตับอักเสบให้ลึกขึ้น ทั้งในแง่ของประเภท สาเหตุ อาการ วิธีวินิจฉัย แนวทางรักษา ไปจนถึงการป้องกัน และการใช้ชีวิตอย่างเหมาะสมหากคุณหรือคนใกล้ตัวได้รับการวินิจฉัยว่าเป็นโรคนี้แล้ว


ทำความรู้จักกับ โรคตับอักเสบ ให้มากขึ้น

โรคตับอักเสบ หรือ Hepatitis คือ ภาวะที่ตับเกิดการอักเสบแบบเฉียบพลันและเรื้อรัง ซึ่งสามารถเกิดขึ้นได้จากหลายสาเหตุ โดยผู้ป่วยจะมีอาการเบื่ออาหาร ท้องร่วง ปวดท้องเฉียบพลัน อ่อนเพลีย น้ำหนักลด ตัวเหลือง ตาเหลือง หรือบางรายอาจมีอาการปวดท้องใต้ชายโครงด้านขวาร่วมด้วย ซึ่งโรคตับอักเสบมีอยู่ด้วยกัน 2 แบบ ดังนี้

    แบบอักเสบเฉียบพลัน อาการเกิดขึ้นอย่างรวดเร็ว และอาจดีขึ้นเองในไม่กี่สัปดาห์
    แบบอักเสบเรื้อรัง อาการค่อย ๆ สะสมและต่อเนื่องเกิน 6 เดือน ซึ่งเสี่ยงลุกลามเป็นตับแข็งหรือโรคมะเร็งตับได้

ตับอักเสบเกิดจากอะไร บ้าง?

แม้ว่า “ตับ” จะเป็นอวัยวะที่ไม่ส่งเสียงเตือนในยามเจ็บป่วย แต่หากเกิดอักเสบขึ้นมาเมื่อไร ผลกระทบที่ตามมานั้นอาจลุกลามถึงชีวิตโดยไม่ทันตั้งตัว ซึ่งสาเหตุการเกิด โรคตับอักเสบ สามารถเกิดขึ้นได้ 2 ปัจจัยหลัก ๆ เช่น


1. เกิดจากการติดเชื้อไวรัสตับอักเสบ

ตับอักเสบเกิดจากอะไรบ้าง?

โดยอาการจะขึ้นอยู่กับเชื้อไวรัสที่ผู้ป่วยเผชิญ ไม่ว่าจะเป็น

    ไวรัสตับอักเสบเอ (Hepatitis A Virus) มักเกิดจากการรับประทานอาหารหรือดื่มน้ำที่ปนเปื้อนเชื้อ (Fecal–oral route) อาการที่พบบ่อย ได้แก่ อ่อนเพลีย ไข้ คลื่นไส้ เบื่ออาหาร ปวดท้อง ตัวเหลือง ตาเหลืองแบบเฉียบพลัน ในบางรายอาจมีอาการปวดเมื่อยกล้ามเนื้อ ผื่นผิวหนัง หรือปวดข้อได้ อาการมักจะหายได้เองในผู้ที่มีภูมิคุ้มกันดี แต่ในบางกรณีอาจเกิดภาวะตับวายเฉียบพลัน โดยเฉพาะในผู้สูงอายุหรือผู้ที่มีโรคตับเรื้อรังอยู่เดิม

    ไวรัสตับอักเสบบี (Hepatitis B Virus) ติดต่อผ่านทางเลือด เพศสัมพันธ์ หรือจากแม่สู่ลูก อาการในระยะเฉียบพลัน ได้แก่ อ่อนเพลีย ไข้ คลื่นไส้ อาเจียน ปวดเมื่อยกล้ามเนื้อ ปวดท้อง ปัสสาวะสีเข้ม ตัวเหลือง ตาเหลือง โดยอาการเหล่านี้จะค่อย ๆ ดีขึ้นเมื่อร่างกายกำจัดเชื้อได้เอง 

    ไวรัสตับอักเสบซี (Hepatitis C Virus) ติดต่อทางเลือดเป็นหลัก เช่น การใช้เข็มร่วมกัน อาการในระยะเฉียบพลันมักไม่มี หรือมีเพียงเล็กน้อย (ประมาณ 25-30% จะมีตัวเหลือง ตาเหลือง) ส่วนใหญ่จะไม่รู้ตัวว่าติดเชื้อ เมื่อกลายเป็นตับอักเสบเรื้อรัง (พบได้ถึง 80% ของผู้ติดเชื้อ) จะมีอาการอ่อนเพลีย เบื่ออาหาร และเมื่อโรคดำเนินไปมากขึ้นอาจเกิดภาวะตับแข็ง ม้ามโต ท้องมาน ขาบวม เลือดออกง่าย สมองมึนงง หรือกลายเป็นมะเร็งตับได้

    ไวรัสตับอักเสบดี (Hepatitis D Virus) ไวรัสชนิดนี้จะติดเชื้อได้เฉพาะในผู้ที่มีการติดเชื้อไวรัสตับอักเสบ B อยู่แล้ว อาการจะรุนแรงกว่าการติดเชื้อไวรัสตับอักเสบ B เพียงอย่างเดียว โดยอาจเกิดตับอักเสบเฉียบพลันรุนแรงหรือตับวายได้ง่ายขึ้น

    ไวรัสตับอักเสบอี (Hepatitis E Virus) ติดต่อคล้ายไวรัสตับอักเสบ A คือผ่านทางอาหารหรือน้ำที่ปนเปื้อน อาการโดยทั่วไปคล้ายกับไวรัสตับอักเสบ A ได้แก่ ไข้ อ่อนเพลีย ตัวเหลือง ตาเหลือง แต่ในหญิงตั้งครรภ์โดยเฉพาะช่วงไตรมาสที่ 3 อาจเกิดภาวะตับวายรุนแรงและมีอัตราการเสียชีวิตสูงกว่ากลุ่มอื่น ดังนั้นผู้ป่วยกลุ่มนี้ควรรับประทานอาหารด้วยความระมัดระวังเป็นพิเศษ

ทั้งนี้ อาการของโรคไวรัสตับอักเสบแต่ละชนิดมีความคล้ายคลึงกันในแง่ของอาการตับอักเสบเฉียบพลัน เช่น ไข้ อ่อนเพลีย ตัวเหลือง ตาเหลือง แต่ความรุนแรงและความเสี่ยงต่อการเกิดภาวะแทรกซ้อนจะแตกต่างกันไปตามชนิดของไวรัสและปัจจัยของผู้ป่วยแต่ละราย


2. พฤติกรรมการใช้ชีวิต

ตับอักเสบเกิดจาก พฤติกรรมการใช้ชีวิต

นอกจากการติดเชื้อไวรัสตับอักเสบแล้ว พฤติกรรมการใช้ชีวิตประจำวันยังเป็นอีกหนึ่งปัจจัยสำคัญที่เพิ่มความเสี่ยงต่อการเกิดโรคตับและภาวะตับอักเสบ โดยเฉพาะในยุคปัจจุบันที่รูปแบบการใช้ชีวิตและการรับประทานอาหารเปลี่ยนแปลงไป ซึ่งพฤติกรรมเหล่านี้หากทำซ้ำเป็นเวลานาน อาจส่งผลเสียต่อสุขภาพของตับได้เช่นกัน ตัวอย่างเช่น 

    รับประทานอาหารที่มีไขมันสูง เช่น อาหารปิ้งย่าง ของทอด ของมัน เช่น นม เนย กะทิ ชีส กุ้ง ปูไข่ ไข่แดง ซึ่งทำให้เกิดไขมันสะสมในตับและเสี่ยงต่อโรคไขมันพอกตับ

    ดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์เป็นประจำ ซึ่งการดื่มในปริมาณมากและต่อเนื่อง จะทำให้เซลล์ตับถูกทำลาย เกิดการอักเสบเรื้อรัง และนำไปสู่ภาวะตับแข็งได้

    การรับประทานยาโดยไม่จำเป็น หรือใช้ยาเกินขนาด เช่น ยาพาราเซตามอล ยาแก้อักเสบ และยาแก้ปวดบางชนิด เมื่อรับประทานต่อเนื่องเป็นเวลานาน จะทำให้ตับทำงานหนักและเสี่ยงต่อการเกิดตับวาย

    ภาวะอ้วนลงพุงและน้ำหนักเกิน โดยไขมันส่วนเกินจะถูกสะสมที่ตับจนเกิดภาวะไขมันพอกตับ ซึ่งหากปล่อยทิ้งไว้อาจพัฒนาเป็นตับอักเสบเรื้อรังและตับแข็ง

    การบริโภคน้ำตาลมากเกินไป  ซึ่งเครื่องดื่มรสหวาน นอกจากจะทำให้น้ำตาลในเลือดสูงแล้ว ยังสามารถเปลี่ยนเป็นไขมันสะสมในตับ เพิ่มความเสี่ยงโรคไขมันพอกตับ แม้ในผู้ที่ไม่อ้วนก็ตาม

    การสูบบุหรี่ หรืออยู่ในสภาพแวดล้อมที่มีควันบุหรี่ ส่งผลให้ตับต้องทำงานหนักขึ้นและเพิ่มความเสี่ยงต่อโรคตับ

    การมีเพศสัมพันธ์โดยไม่ป้องกัน เพิ่มโอกาสรับเชื้อไวรัสตับอักเสบบีและซี

การปรับเปลี่ยนพฤติกรรมเหล่านี้ เช่น การเลือกรับประทานอาหารที่มีประโยชน์ ออกกำลังกายสม่ำเสมอ งดแอลกอฮอล์ งดสูบบุหรี่ และหลีกเลี่ยงการใช้ยาหรืออาหารเสริมโดยไม่จำเป็น จะช่วยลดความเสี่ยงและป้องกันโรคตับได้อย่างมีประสิทธิภาพ


เราสามารถตรวจวินิจฉัย “โรคตับอักเสบ” อย่างไรได้บ้าง?

การวินิจฉัยโรคตับอักเสบมีความสำคัญอย่างยิ่งในการระบุชนิดของโรค ประเมินความรุนแรง และวางแผนการรักษา ซึ่งส่วนใหญ่ผู้ป่วยมักพบผลโดยบังเอิญจากการตรวจสุขภาพประจำปี โดยแนวทางในการตรวจสุขภาพหลัก ๆ ที่แพทย์ใช้มีดังนี้

    การซักประวัติและตรวจร่างกาย
    แพทย์จะสอบถามอาการ ประวัติการเจ็บป่วย พฤติกรรมเสี่ยง การใช้ยา การมีเพศสัมพันธ์รวมถึงตรวจร่างกายเพื่อหาสัญญาณของโรค เช่น ภาวะดีซ่าน (ตัวเหลือง ตาเหลือง) ตับโต หรืออาการบวม
    การตรวจเลือด
    เพื่อค่าการทำงานของตับที่ผิดปกติ รวมไปถึงการตรวจหาเชื้อไวรัส ที่อาจก่อให้เกิดโรคตับอักเสบ
    ตรวจด้วยเครื่องไฟโบรสแกน (Fibroscan)
    เป็นการตรวจไขมันในตับสูงและการตรวจพังผืด ที่ช่วยประเมินปริมาณไขมันในตับโดยที่ผู้ป่วยไม่เจ็บตัว และใช้เวลาไม่นาน
    การตรวจชิ้นเนื้อตับ (Liver Biopsy)
    ในบางกรณีที่ต้องการประเมินความรุนแรงหรือระยะของโรค แพทย์จะใช้เข็มขนาดเล็กเจาะเก็บตัวอย่างเนื้อตับมาตรวจวิเคราะห์ทางพยาธิวิทยา


หากผู้ป่วยพบว่าเป็น “โรคตับอักเสบ” ควรปฏิบัติตัวอย่างไร?

เมื่อได้รับการวินิจฉัยว่าเป็นโรคตับอักเสบ ผู้ป่วยควรดูแลตนเองอย่างเหมาะสมและปฏิบัติตามคำแนะนำของแพทย์อย่างเคร่งครัด เพื่อช่วยให้ตับฟื้นฟู ลดความเสี่ยงของภาวะแทรกซ้อน และป้องกันการแพร่กระจายของโรค โดยแนวทางการดูแลตนเองที่สำคัญ ได้แก่

    พักผ่อนให้เพียงพอ นอนหลับวันละ 7–8 ชั่วโมง เพื่อให้ร่างกายและตับฟื้นตัวได้ดี

    รับประทานอาหารที่เหมาะสม เลือกอาหารสะอาด ย่อยง่าย ครบ 5 หมู่ หลีกเลี่ยงอาหารมันจัด แปรรูป และใส่สารกันบูด

    งดแอลกอฮอล์ แอลกอฮอล์ทำร้ายตับโดยตรง ควรงดดื่มทุกชนิด

    หลีกเลี่ยงยาหรืออาหารเสริมที่ไม่จำเป็น โดยเฉพาะยาสมุนไพรหรืออาหารเสริมที่ไม่ได้อยู่ภายใต้การดูแลของแพทย์

    ออกกำลังกายอย่างเหมาะสม เช่น เดินเร็ว ว่ายน้ำ หรือโยคะ หลีกเลี่ยงการออกแรงหนัก

    ควบคุมน้ำหนัก โดยเฉพาะในผู้ที่มีไขมันพอกตับ ควรออกกำลังกายสม่ำเสมอและควบคุมอาหาร

    ดูแลสุขอนามัยส่วนตัว ได้แก่ ล้างมือบ่อย ๆ เพื่อป้องกันเชื้อโรค, หลีกเลี่ยงการใช้ของมีคม และของใช้ส่วนตัวร่วมกับผู้อื่น

    เพศสัมพันธ์อย่างปลอดภัย ใช้ถุงยางอนามัย ลดความเสี่ยงการติดไวรัสตับอักเสบ B, C, D

    ตรวจสุขภาพตามนัด เพื่อตรวจเลือดและอัลตราซาวนด์ตามคำแนะนำแพทย์ และติดตามอาการ

    ใช้ยาตามแพทย์สั่ง ห้ามหยุดยา ปรับขนาด หรือเปลี่ยนยาเอง เพื่อการรักษาที่มีประสิทธิภาพ


วิธีดูแลตนเอง และป้องกันไม่ให้เกิด “โรคตับอักเสบ”

    ฉีดวัคซีนป้องกันไวรัสตับอักเสบ A และ B ให้ครบตามกำหนด
    เลือกรับประทานอาหารปรุงสุก ดื่มน้ำสะอาด
    หลีกเลี่ยงพฤติกรรมเสี่ยง เช่น ใช้เข็มฉีดยาร่วมกัน สักหรือเจาะในร้านที่ไม่สะอาด และมีเพศสัมพันธ์โดยไม่ป้องกัน
    ควบคุมโรคประจำตัวให้ดี โดยเฉพาะเบาหวานและความดันโลหิตสูง ซึ่งอาจส่งผลต่อสุขภาพตับในระยะยาว
    งดสูบบุหรี่ เพราะสารพิษในบุหรี่ทำให้ตับทำงานหนักขึ้นและเพิ่มความเสี่ยงต่อโรคตับ
    ตรวจสุขภาพตับอย่างสม่ำเสมอ ผู้ที่มีปัจจัยเสี่ยงควรพบแพทย์เพื่อตรวจเลือดและอัลตราซาวนด์ช่องท้องเป็นระยะ

การใช้สิทธิบัตรทองในการขอรับยาสามัญประจำบ้าน

สำหรับผู้ที่มีอาการเจ็บป่วยเล็กน้อย เช่น เวียนศีรษะ ปวดหัว ท้องเสีย ฯลฯ สามารถใช้สิทธิบัตรทอง เพื่อรับบริการที่ร้านยาที่เข้าร่วม “โครงการร้านยาคุณภาพของฉัน ให้บริการดูแลอาการเจ็บป่วยเล็กน้อย 32 อาการ” ได้ ซึ่งจะมีเภสัชกรคอยให้คำปรึกษา และจ่ายยาที่จำเป็นโดยไม่เสียค่าใช้จ่าย

6
จัดฟันบางนา: อายุมาก สามารถจัดฟันแบบใสได้ไหม

 การเข้ารับการจัดฟันแบบใส ถือว่าเป็นนวัตกรรมการจัดฟันแบบใหม่ ที่เน้นความสวยงามของฟันเป็นหลัก เพราะเครื่องมือที่ผู้เข้ารับการจัดฟันจะต้องสวมใส่ มีความโปร่งใส ทำให้คนอื่นมองแทบไม่ออกว่าเรากำลังเข้ารับการจัดฟันอยู่ โดยเครื่องมือการจัดฟันแบบใส จะสามารถช่วยปรับการเรียงตัวของฟัน เป็นเครื่องมือจัดฟันที่สามารถถอดใส่ได้ง่ายและสะดวก ไม่ต้องทนเจ็บจากเครื่องมือแบบติดแน่น เพราะปัญหาของผู้เข้ารับการจัดฟันส่วนใหญ่ ไม่ว่าจะเป็นการจัดฟันในรูปแบบใด ปัญหาที่มักพบได้บ่อยคือ การเกิดแผลภายในช่องปาก

เนื่องจากเครื่องมือที่สวมใส่ อาจจะทำให้รู้สึกระคายเคืองช่องปาก จนทำให้เกิดบาดแผล ส่งผลทำให้เรารู้สึกเจ็บปวด รับประทานอาหารได้น้อยลง ในเรื่องของการจัดฟัน ซึ่งต้องบอกว่า ได้รับความนิยมมากในกลุ่มของวัยรุ่น หลายคนมีความคิดที่ว่า การจัดฟันเหมาะสำหรับเด็กเท่านั้น ซึ่งนี่เป็นความคิดที่ผิด เพราะการจัดฟันสามารถจัดได้ทุกเพศ ทุกวัย แต่การจัดฟันจะมีประสิทธิภาพในเด็กมากกว่าผู้ใหญ่

เพราะเด็กยังมีการเจริญเติบโต ซึ่งแก้ไขได้ง่ายกว่า ไม่ซับซ้อน แต่การจัดฟันแบบใส ถึงแม้ว่าจะมีอายุมาก ก็สามารถเข้ารับการจัดฟันแบบใสได้ และมีประสิทธิภาพเช่นเดียว ซึ่งใครหลายคนที่กำลังคิดหรือสนใจเข้ารับการจัดฟันแบบใส อาจจะกังวลในเรื่องของอายุ เพราะการจัดฟันแบบใส มีค่าใช้จ่ายที่สูง  แน่นอนว่าถ้าหากเข้ารับการจัดฟันแบบใส และไม่ได้ผลก็อาจจะทำให้เสียเงินโดยใช่เหตุ และยังเสียเวลาอีกด้วย ซึ่งวันนี้ทางคลินิกของเราจะมาพูดถึงเรื่องของอายุกับการเข้ารับการจัดฟันแบบใส

 สำหรับเรื่องของอายุกับการเข้ารับการจัดฟันนั้น ต้องบอกก่อนว่า การเข้ารับการจัดฟันไม่ว่ารูปแบบใด สามารถทำได้ตั้งแต่เด็กถึงผู้ใหญ่ แต่ช่วงเวลาที่เหมาะสมที่สุดคือช่วงอายุประมาณ 10-14 ปี เนื่องจากร่างกายกำลังเจริญเติบโต มีการเปลี่ยนแปลงของโครงสร้างใบหน้ามากที่สุด ฟันสามารถเคลื่อนที่ได้ง่ายเป็นประโยชน์ต่อการจัดฟัน แต่หากอายุมากแล้วหรือประมาณ 30 ปีขึ้นไป อาจต้องใช้ระยะเวลาในการจัดฟันที่นานกว่าปกติ

การเข้ารับการจัดฟันแบบใสก็เช่นเดียวกัน ดังนั้น จึงควรรักษาสุขภาพช่องปากให้ดีและปรึกษาทันตแพทย์ผู้เชี่ยวชาญก่อนรับการจัดฟัน สำหรับผู้ใหญ่ที่มีอายุ 30-50 ปี หากมีความจำเป็นที่จะต้องเข้ารับการจัดฟัน เช่น มีฟันหน้าห่าง ฟันซ้อน ฟันยื่น ก็สามารถเข้ารับการจัดฟันได้ หากมีสุขภาพช่องปากและฟันที่ดี มีระเบียบวินัยนการสวมใส่เครื่องมือ และมีความพร้อม ที่จะให้ความร่วมมือในการรักษาก็สามารถทำได้ โดยไม่มีข้อจำกัด

ดังนั้น การจัดฟันสามารถทำได้เกือบทุกช่วงอายุ เพราะอายุไม่ใช่ข้อห้ามของการจัดฟัน แต่ในเรื่องของสุขภาพของช่องปากและฟันต่างหาก ที่อาจจะเป็นข้อห้าม สำหรับการจัดฟันในผู้ใหญ่ นอกจากนี้ ภายหลังการจัดฟัน ผู้เข้ารับการจัดฟันควรดูแลตนเองด้วยการรักษาความสะอาดของฟันและเครื่องมือจัดฟัน ควร ทำความสะอาดภายหลังรับประทานอาหารทุกมื้อและก่อนเข้านอน รักษาเครื่องมือจัดฟันให้อยู่ในสภาพสมบูรณ์ ไม่ให้หลุดหักหรือบิดเบี้ยว ควรหลีกเลี่ยงอาหารที่แข็งและเหนียว และปฏิบัติตามคำแนะนำของทันตแพทย์อย่างเคร่งครัด เพื่อที่จะได้มีผลการรักษาที่ดี เป็นไปตามที่ทันตแพทย์ได้กำหนดไว้

สำหรับใครที่สนใจอยากเข้ารับการจัดฟันแบบใส สามารถติดต่อขอรับคำแนะนำได้ที่คลินิก ของเรา เพราะทางเรามีทีมทันตแพทย์ที่มีความเชี่ยวชาญในด้านการจัดฟันและการทันตกรรมอื่นๆ ทั้งยัง ได้รับการรับรองสูงสุดจาก Invisalign ให้สามารถให้บริการการจัดฟันแบบใสได้อย่างปลอดภัย ทำให้ผู้เข้ารับการรักษามีความมั่นใจว่า เมื่อเข้ารับการรักษากับทางคลินิกแล้วจะมีความปลอดภัย มีความน่าเชื่อถือ รวมถึงจะมั่นใจได้ว่าคุณจะมีฟันที่เรียงตัวกันอย่างสวยงามและมีสุขภาพช่องปากและฟันที่ดี รวมไปถึงสามารถใช้ชีวิตประจำวันได้ตามปกติด้วย เพราะเราอยากให้ทุกคนมีสุขภาพช่องปากและฟันที่ดี มีรอยยิ้มที่มั่นใจ สดใส และทำให้ผู้เข้ารับการจัดฟันทุกคนที่คุณภาพชีวิตที่ดีขึ้น

7
เด็กที่มีรูปหน้าสั้น แก้ไขด้วยการจัดฟันเด็กได้หรือไม่

การจัดฟันในเด็ก เป็นการรักษาทางทันตกรรมอย่างหนึ่งที่ได้รับความนิยมมากในปัจจุบัน เพราะเด็กส่วนใหญ่มีพฤติกรรมการดูดนิ้ว ซึ่งการดูดนิ้วเป็นพัฒนาการปกติของเด็กเล็ก เป็นพฤติกรรมที่เด็กใช้ในการปลอบตนเองหรือเป็นการกระตุ้นตัวเอง สามารถพบภาวะนี้ได้ตั้งแต่ในครรภ์ วัยทารกพบภาวะดังกล่าวได้ถึงร้อยละ 80 ของเด็กทั้งหมด และจะลดลงจนเหลือประมาณร้อยละ 30-45 ในเด็กวัยก่อนเรียน อย่างไรก็ตาม การดูดนิ้วที่มากเกินไปในเด็กที่อายุมากกว่า 4 ปี อาจนำมาสู่ภาวะแทรกซ้อนได้ เช่น ปัญหาช่องปากและฟัน การสบฟันผิดปกติ กระดูกใบหน้าเจริญผิดปกติหรือพูดไม่ชัด  ซึ่งอาจมีผลกระทบต่อความมั่นใจ และปัญหาในเรื่องขอสุขภาพช่อช่องปากและฟันในอนาคตได้ แต่ที่แน่นอนก็คือ พฤติกรรมดูดนิ้ว หรือดูดขวดนมในเด็กนั้น  ส่งผลต่อสุขภาพช่องปากและฟันโดยตรง และยังส่งผลทำให้เด็กมีกระดูกใบหน้าที่เจริญเติบโตแบบผิดปกติด้วย ส่งผลให้เด็กอาจจะมีรูปหน้าสั้นได้ ดังนั้น การจัดฟันในเด็ก จึงสามารถแก้ไขปัญหาดังกล่าวได้อย่างมีประสิทธิภาพ เพราะการจัดฟันในเด็กช่วยเสริมสร้างความมั่นใจและช่วยปรับปรุงบุคลิกภาพให้ดียิ่งขึ้นได้

ในปัจจุบัน การจัดฟันได้มีการพัฒนาให้สามารถจัดฟันในเด็กได้ โดยเริ่มต้นตั้งแต่อายุ4-10 ปี โดยการจัดฟันของเด็กในวัยนี้ เป็นการจัดฟันที่ใช้เครื่องมือการจัดฟันที่เรียกว่า EF LINE ซึ่งเป็นชุดเครื่องมือที่สามารถใช้แก้ไขปัญหากล้ามเนื้อที่มีการทำงานผิดปกติ ช่วยปรับตำแหน่งของลิ้น ช่วยส่งเสริมการปรับรูปของกระดูกโดยเราทราบว่ากระบวนการเจริญเติบโตของเด็กที่เกี่ยวข้องกับกระดูกใบหน้าส่วนกลางและกระดูกขากรรไกรล่างมีการเจริญเติบโตอย่างต่อเนื่อง แต่จะมากน้อยตามแต่ช่วงอายุของเด็ก ดังนั้น ตามหลักการแล้วหากต้องการปรับโครงสร้างใบหน้าจึงต้องทำการเริ่มแก้ไขในช่วงที่เด็กยังมีการเจริญเติบโต โดยเครื่องมือ EF LINE มีความหลากหลายในการแก้ปัญหาที่แตกต่างกัน เช่น ปัญหารูปหน้าที่มีคางหลุบ ค้างเบี้ยวกระดูกและฟันบนยื่น และกรณีที่เด็กมีรูปหน้าสั้นซึ่งต้องการเพิ่มความสูงใบหน้า เป็นต้น

สำหรับวันนี้ทางคลินิกของเราจะมาพูดถึงปัญหาความผิดปกติของโครงสร้างของใบหน้าเด็ก ที่มีรูปหน้าสั้น อันมีสาเหตุมาจากพฤติกรรมในวันเด็กที่ชอบดูดนิ้ว ดูขวดนมเป็นนิสัย ซึ่งปัญหาดังกล่าว ก็เป็นที่กังวลใของพ่อแม่ผู้ปกครองหลายคน ซึ่งการแก้ไขปัญหาที่พ่อแม่สามารถทำได้ก็คงจะเป็นเรื่องของการทำให้เด็กเลิกดูดนิ้ว ดูดขวดนม เป็นเวลานานซึ่งพ่อแม่ผู้ปกครอง สามารถสอนให้เด็กใช้แก้วน้ำแทนการดูดขวดนมได้

แต่ถ้าหากไม่สามารถแก้ไขปัญหาดังกล่าวได้ทัน แน่นอนว่าเมื่อลูกมีโครงสร้างใบหน้าที่ผิดปกติ การเข้ารับการจัดฟันในเด็ก ด้วยเครื่องมือ EF LINE จึงเป็นอีกหนึ่งทางเลือกที่จะสามารถแก้ไขปัญหาได้ในระยะยาว อย่างที่ทราบกันดีว่า การจัดฟันในเด็กด้วยเครื่องมือ EF LINE สามารถช่วยแก้ไขในเรื่องของปัญหาสุขภาพฟันในเด็กเล็กได้ และยังสามารถแก้ไขปัญหาโครงสร้างของใบหน้าของเด็กได้ด้วย เพราะเครื่องมือ EF LINE นั้น สามารถแก้ไขปัญหากล้ามเนื้อที่มีการทำงานผิดปกติ ช่วยปรับตำแหน่งของลิ้น ช่วยส่งเสริมการปรับรูปของกระดูกโดยเราทราบว่ากระบวนการเจริญเติบโตของเด็กที่เกี่ยวข้องกับกระดูกใบหน้าส่วนกลางและกระดูกขากรรไกรล่างมีการเจริญเติบโตอย่างต่อเนื่อง   

เพราะฉะนั้นหากต้องการปรับโครงสร้างใบหน้า จะต้องเข้ารับการแก้ไขตั้งแต่เนิ่นๆ เพื่อไม่ให้เกิดปัญหาหากปล่อยทิ้งไว้เป็นเวลานาน เพราะกล้ามเนื้อใบหน้าและลิ้นมีผลต่อการเปลี่ยนแปลงรูปร่าง ขนาด และการทำงานของกระดูกขากรรไกรและใบหน้า ดังนั้น การเข้ารับการปรับแก้ไขปัญหาของกล้ามเนื้อ ปรับเปลี่ยนการหายใจให้ถูกวิธี รวมถึงการปรับการกลืนให้ถูกต้อง ด้วยเครื่องมือ EF line จึงมีประสิทธิภาพมากยกตัวอย่างเช่น ปัญหาการกลืนที่ผิดปกติ ในขณะกลืนผู้ป่วยจะยื่นลิ้นออกมาอยู่ระหว่างปลายฟันหน้าบนและล่าง ต้องพิจารณาจากขนาดของลิ้น โดยลิ้นอาจมีขนาดใหญ่ผิดปกติ

เนื่องจากโรคทางระบบและตำแหน่งของลิ้นในขณะพักตำแหน่งของลิ้นที่ปกติอาจเป็นผลจากขบวนการปรับตัว มักพบในคนไข้ภูมิแพ้ มีการอุดตันของช่องจมูก ขากรรไกรบนแคบมาก ความสูงของใบหน้ามากผิดปกติควรมาพบทันตแพทย์เพื่อทำการแก้ไข ฟันหน้าห่าง การสบฟันหลังคร่อม การพูดออกเสียงไม่ชัด และเกิดการพัฒนาใบหน้าแนวดิ่งมากกว่าปกติ อาการเหล่านี้ถือว่าส่งผลต่อการใช้ชีวิตประจำวันของเด็ก ดังนั้น ถ้าเด็กมีความผิดปกติ พ่อแม่ผู้ปกครองควรที่จะพาบุตรหลานของท่านเข้ารับการตรวจกับทันตแพทย์จัดฟัน เพื่อทำการแก้ไข

หากพ่อแม่ผู้ปกครองท่านใดสนใจ พาบุตรหลานของท่านเข้ารับการรักษาด้วยการจัดฟันในเด็ก ด้วยเครื่องมือ EF LINE สามารถติดต่อขอรับคำแนะนำได้ที่คลินิกเพราะทางเรามีหากพ่อแม่ผู้ปกครองท่านใดสนใจพาบุตรหลานของท่านเข้ารับการจัดฟันในเด็กต่อสามารถติดต่อขอรับคำแนะนำได้ที่คลินิกไอดอลสมายเพราะคลินิกของเรามีทันตแพทย์ที่มีความเชี่ยวชาญทางด้านการจัดฟันในเด็กและมีประสบการณ์อย่างยาวนานจึงทำให้สามารถแนะนำหรือแก้ไขปัญหาฟันได้อย่างถูกวิธี

นอกจากนี้ ทันตแพทย์ของเรายังสามารถช่วยประเมินปัญหาและแนะนำแนวทางการแก้ไขได้อย่างตรงจุด สามารถแนะนำวิธีการรักษาโดยยึดหลักปัญหาฟันของเด็กเพื่อให้เด็กได้รับการรักษาที่ถูกวิธี เพราะเราอยากให้เด็กเด็กทุกคนมีสุขภาพช่องปากและฟันที่ดี มีบุคลิกภาพที่น่ารักสดใสสมวัย มีฟันที่เรียงตัวกันอย่างสวยงาม เพื่อให้เด็กได้สามารถใช้ชีวิตประจำวันได้อย่างเต็มที่เสริมสร้างพัฒนาการของเด็กและทำให้เด็กมีคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้น

8
มอเตอร์โชว์: โตโยต้า ฟอร์จูนเนอร์ GR Sport แรงดั่งใจ ใส่ได้ทุกทาง

โตโยต้า  FORTUNER รถยนต์อเนกประสงค์ยอดนิยมของไทยมาตลอดหลายปีนับตั้งแต่เปิดตัว ซึ่งมีการอัพเดทปรับปรุงมาหลายครั้ง และล่าสุดก็มีเวอร์ชัน  “GR-Sport”  ใหม่ ที่เน้นสมรรถนะเต็มเปี่ยม สำหรับใครที่ชอบการขับแบบสนุก เร่งแซงทันใจ ยืนระยะความเร็วได้นาน โดยเฉพาะการขับทางไกลที่เน้นการทำเวลา ทั้งยังให้ลุคตัวรถแบบ พีพีวี-เอสยูวี สปอร์ตทั้งคัน ทีมงาน Carguru Thailand และเช็คราคา.คอมได้รับโอกาสนำ โตโยต้า ฟอร์จูนเนอร์ จีอาร์-สปอร์ตมาทดลองขับ ซึ่งความรู้สึกด้านสมรรถนะและการใช้งานในชีวิตประจำวันเป็นอย่างไร

“GR-Sport” โดดเด่นด้วยดีไซน์สปอร์ต โฉบเฉี่ยว ทรงพลัง สนุกสนานกับสมรรถนะเครื่องยนต์แรงสุด 224 แรงม้า และช่วงล่างสปอร์ต เป็นพีพีวี-เอสยูวี ที่ตอบสนองการใช้งานเป็นรถคันเดียวของครอบครัวได้ครบทุกโอกาส การขับใช้งานในชีวิตประจำวันในเมืองนับว่าดีพอแม้ว่าขนาดมิติตัวถังจะใหญ่แต่ด้วยความสูงและการตอบสนองคันเร่งในจังหวะออกตัวที่ฉับไว ทำให้การขับในเมืองง่ายคล่องแคล่ว แต่ที่ปฎิเสธไม่ได้ก็คือ ขนาดใหญ่ก็ทำให้การหาที่จอดและการก้าวขึ้นลงในที่แคบไม่สะดวก นอกจากนี้ยังขาดความสะดวกอย่างระบบ autohold และปาร์คกิ้งเบรกยังเป็นแบบกลไกมือดึง

ส่วนการขับนอกเมืองบนถนนที่เปิดโล่งมากกว่าพบว่า ตัวรถที่มีสมรรถนะสูงตอบสนองด้านอัตราเร่งและการควบคุมได้อย่างยอดเยี่ยม นับเป็นจุดขายที่ฟอร์จูนเนอร์มีมาตลอด และเหนือชั้นมากขึ้นกับ 224 แรงม้า ใน GR-Sport รุ่นล่าสุดนี้ รถสูงมองไกล กดไปไว ไม่กลัวทุกพื้นผิว โดนใจคนใช้ที่เน้นสมรรถนะตัวรถเป็นหลัก สรุป ดีไซน์ภายนอกโดดเด่น ลุคสปอร์ตสมกับความแรง ภายในธีมสปอร์ต แต่แผงแดชบอร์ดที่ดูคุ้นตามากว่า 8 ปี ทำให้รู้สึกว่าตกยุคไปแล้ว ถ้าเทียบกับแบรนด์อื่น อัตราสิ้นเปลืองผสมผสานกันกับระยะทางมากกว่า 500 กม. ได้ตัวเลขบนหน้าจอข้อมูลที่ 10.4 กม./ล. เทียบกับน้ำหนักตัว ระบบขับเคลื่อน 4 ล้อ นับว่าสมเหตุผล ใครที่อยากได้รถอเนกประสงค์ที่ตอบสนองด้านสมรรถนะอย่างโดดเด่น และสบายใจกับบริการหลังการขาย ศูนย์เซอร์วิส ไม่มีข้อจำกัดด้านงบประมาณ ยอมจ่ายค่าตัว 1.939 ล้านบาท โตโยต้า ฟอร์จูนเนอร์ “GR-Sport” รุ่นนี้เป็นตัวเลือกของคุณเลย

ไฮไลท์ โตโยต้า ฟอร์จูนเนอร์ จีอาร์-สปอร์ต
1. เพิ่มอารมณ์สปอร์ตด้วยพลังขับเคลื่อนของเครื่องยนต์ 2.8 GD Super Power ปรับจูนใหม่ ให้กำลัง 224 แรงม้า (เพิ่มขึ้น 20 แรงม้า) แรงบิด 550 นิวตันเมตร (เพิ่มขึ้น 50 นิวตันเมตร)
2. สะดวกสบายยิ่งขึ้นด้วยหน้าจอสัมผัสขนาด 9 นิ้ว รองรับ Apple CarPlay & Android Autoแบบไร้สาย
3. มั่นใจทุกการเดินทางด้วยระบบช่วยเตือนลมยาง
4. ขับเคลื่อนเต็มกำลังด้วยช่วงล่าง Monotubeช่วยซับแรงสั่นสะเทือนเพิ่มสมรรถนะการขับขี่
5. ปลอดภัยทุกเส้นทางด้วย Toyota Safety Sense ระบบความปลอดภัยก่อนการชน –ระบบเตือนเมื่อออกนอกเลน พร้อมหน่วงกลับอัตโนมัติ และระบบควบคุม พร้อมปรับรถความเร็วอัตโนมัติ
6. พิเศษยิ่งกว่าด้วยอุปกรณ์ตกแต่ง GR-Sport เช่น Smart Key - Push start GR - คันเร่งและเบรกอะลูมิเนียมแบบสปอร์ต - เบรกพร้อมคาลิปเปอร์สีแดง

ราคา  FORTUNER GR - Sport 2024
2.8 GR Sport เกียร์อัตโนมัติ ขับเคลื่อน 4 ล้อ     ​​​1,939,000 บาท
(*สำหรับสี Emotional Red Black Top และ สี Platinum White Pearl Black Top เพิ่ม 20,000 บาท)

9
motor expo 2025: นิสสันชวนทำความรู้จัก V2G เทคโนโลยีแห่งอนาคตเพื่อการจัดการพลังงานเพื่อร่วมฉลองวันแห่งความยั่งยืนโลก

30 ตุลาคมปีนี้ เป็นวันแห่งความยั่งยืนโลก หรือ World Sustainability Day ซึ่งปกติจะจัดในวันพุธสุดท้ายของเดือนตุลาคม เพื่อสร้างความตระหนัก และชวนให้คนทั่วโลกได้ร่วมกันปรับพฤติกรรม ที่จะช่วยรักษาสิ่งแวดล้อม และธรรมชาติเพื่อส่งต่อให้คนรุ่นหลัง  วันนี้จะชวนมารู้จักกับเทคโนโลยีนี้เรียกว่า V2G หรือชื่อเต็ม ๆ ว่า Vehicle-to-Grid  ซึ่งเป็นการนำไฟฟ้าส่วนเกินจากรถยนต์พลังงานไฟฟ้าหรือ EV มาใช้ให้เกิดประโยชน์สูงสุด

เช่นเดียวกันกับในหลายๆ ประเทศ ประเทศไทยกำลังตื่นตัวกับรถยนต์พลังงานไฟฟ้า เพราะนอกจากจะช่วยให้ผู้ขับขี่ประหยัดค่าใช้จ่ายด้านพลังงาน และการเดินทางแล้ว ยังไม่มีการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ ช่วยลดผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมได้ทันที

 เทคโนโลยี V2G ที่อาจเรียกง่าย ๆ ได้ว่าเป็นเทคโนโลยีชาร์จไฟสองทาง นอกจากจะใช้ชาร์จรถก่อนออกเดินทางแล้ว เมื่อเรากลับถึงบ้าน และยังมีไฟฟ้าเหลืออยู่ในแบตเตอรี่รถยนต์ เทคโนโลยี V2G ยังช่วยให้เรานำพลังงานส่วนที่เหลืออยู่ในแบตเตอรี่ของรถ EV ส่งกลับเข้าสู่ระบบไฟบ้านมาใช้ในระบบไฟส่องสว่าง แอร์ หรือเสียบปลั๊กเครื่องใช้ไฟฟ้าต่าง ๆ ในบ้านได้

นิสสันซึ่งเป็นหนึ่งในค่ายรถยนต์ผู้นำของโลกด้านเทคโนโลยี V2G มีบทบาทสำคัญในการพัฒนา และส่งเสริมการใช้เทคโนโลยีทั้งในต่างประเทศ และในประเทศไทย  เริ่มต้นจากโครงการ Blue Switch ที่นิสสันริเริ่มมาตั้งแต่ปี 2561 ในประเทศญี่ปุ่น เพื่อสร้างสังคมที่ไร้มลพิษ พร้อมยกระดับการเดินทาง และการใช้ชีวิตของผู้คนในสังคมด้วยการขับเคลื่อนจากรถยนต์พลังงานไฟฟ้าและนวัตกรรมทางเทคโนโลยี

สำหรับประเทศไทย จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย เป็นหนึ่งในองค์กรแรก ๆ ในประเทศไทยที่ได้ศึกษา และทดลองนำเทคโนโลยี V2G มาใช้อย่างเต็มศักยภาพ  โครงการความร่วมมือระหว่าง นิสสัน ประเทศไทย กับ คณะวิศวกรรมศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย  การไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย (กฟผ.)  และบริษัท ฮ้อปคาร์ จำกัด  โดยใช้นิสสัน ลีฟ รถยนต์ขับเคลื่อนด้วยพลังงานไฟฟ้าที่มีเทคโนโลยีถ่ายเทพลังงานจากยานพาหนะสู่ระบบโครงข่ายไฟฟ้า เป็นตัวอย่างในการทดลองนี้

 แม้ว่าโครงการนี้จะเพิ่งเริ่มต้นในประเทศไทย และยังต้องรออีกระยะหนึ่งก่อนที่จะได้เห็นผลการทดลองที่ชัดเจน แต่ในระยะยาวแล้วนั้น การศึกษา และการวิจัยนี้จะช่วยให้เราเข้าใจ และเห็นแนวทางพัฒนาการจัดการพลังงานอย่างยั่งยืนในอนาคตให้ดียิ่งขึ้น ด้วยการใช้เทคโนโลยี V2G เพิ่มประสิทธิภาพการใช้พลังงาน ตลอดจนลดค่าใช้จ่ายด้านพลังงาน ขณะเดียวกันยังช่วยลดมลภาวะ และส่งผลต่อการชะลอผลกระทบจากภาวะโลกร้อนด้วย

หนึ่งในประโยชน์ที่สำคัญของเทคโนโลยี V2G คือการใช้รถยนต์ไฟฟ้าเป็นแหล่งพลังงานสำรองสำหรับบ้านเรือน และอาคาร ในกรณีที่เกิดการขาดแคลนพลังงานหรือไฟฟ้าดับ หรือภาวะฉุกเฉิน เช่น เมื่อเกิดภัยพิบัติธรรมชาติทำให้ระบบจ่ายไฟฟ้าล่ม  เราสามารถดึงเอาพลังงานไฟฟ้าส่วนเกินที่เก็บอยู่ในแบตเตอรี่รถยนต์ไฟฟ้ามาใช้ในบ้านเรือนหรืออาคารได้ ช่วยให้ผู้ใช้งานสามารถใช้พลังงานได้อย่างต่อเนื่อง ซึ่งจะเป็นประโยชน์อย่างมาก โดยเฉพาะสำหรับบ้านที่มีผู้ป่วยหรือผู้ที่ต้องใช้อุปกรณ์ทางการแพทย์ที่ต้องใช้ไฟฟ้า ที่จะสามารถดูแลคนเหล่านี้ได้อย่างต่อเนื่องในขณะที่รอความช่วยเหลือ

แน่นอนว่า การมีรถยนต์ที่ทำหน้าที่เสมือนโรงไฟฟ้าส่วนตัวของเรา ยังช่วยให้บริหารการใช้ไฟฟ้าและค่าใช้จ่ายได้อย่างมีประสิทธิภาพ  ถ้าเราจัดการดี ๆ จะสามารถชาร์จไฟรถในช่วงที่คนใช้ไฟฟ้าน้อยอัตราค่าไฟถูก และดึงไฟฟ้าจากแบตเตอรี่รถมาใช้ในบ้านในช่วงที่คนใช้ไฟฟ้าเยอะอัตราค่าไฟฟ้าสูง เราจะลดค่าไฟฟ้าช่วงนี้ได้อีก และยังเป็นการใช้พลังงานได้อย่างมีประสิทธิภาพสูงสุดด้วย

ที่สำคัญกว่าเรื่องค่าใช้จ่าย คือ เรากำลังช่วยกันลดการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ที่ส่งผลกระทบอย่างมากต่อสภาพภูมิอากาศและสิ่งแวดล้อมในปัจจุบัน

การเปลี่ยนแปลงเพื่อความยั่งยืน คือความรับผิดชอบของพวกเราทุกคน  เพียงเราแต่ละคนเปลี่ยนแปลงพฤติกรรมการใช้ชีวิตอย่างยั่งยืนคนละนิด โลกของเราจะดีขึ้นได้แน่นอน ในวันความยั่งยืนโลกปีนี้ คุณจะทำอะไรดี

10
รถยนต์ไฟฟ้า 2025: ซีเคอร์ Zeekr X Flagship ปี 2024
1,349,000 บาท

ซีเคอร์ Zeekr X Flagship ปี 2024
ZEEKR X Flagship ซึ่งเป็นรุ่นที่โดดเด่นด้าน Performance จะเป็นรุ่นที่มาพร้อมกับมอเตอร์คู่ ขับเคลื่อน 4 ล้อ ให้กำลังสูงถึง 428 แรงม้า และระยะทางการขับขี่ที่ 470 กิโลเมตรต่อการชาร์จเต็มหนึ่งครั้ง โดยรุ่น Flagship จะมีอุปกรณ์ต่างๆ เพิ่มเติมมากยิ่งขึ้น ไม่ว่าจะเป็น ล้อแบบ Forged Wheel ขนาด 20 นิ้ว  AR HUD, ไฟ Ambient Light และระบบเสียงรอบทิศทางจาก YAMAHA ทั้งหมด 13 ตำแหน่ง ราคา 1,349,000 บาท

รายละเอียดเบื้องต้น
   แบรนด์             Zeekr
   รุ่น                  ซีเคอร์ Zeekr X Flagship ปี 2024
   ประเภทรถ         รถอเนกประสงค์ SUV, Electric - EV
   ปีที่เปิดตัว          2024
   ราคา                1,349,000 บาท

ดีไซน์
   ภายนอก
ปัดน้ำฝนกระจกหลัง (แบบไร้ก้าน)
ปัดน้ำฝนกระจกหน้าแบบพิเศษ (อัตโนมัติ)
ไฟหน้า LED (พร้อม Light Show)
ไฟท้าย LED (พร้อม Light Show)
หลังคาพาโนรามิคซันรูฟ (พร้อมกันความร้อน)
ขนาดยางหน้า-หลัง (245/45 R20)
ไฟ Daytime Running Lights
ล้ออัลลอย (20 นิ้ว)

   ภายใน
กระจกมองหลังตัดแสง (แบบไม่มีกรอบ)
อุปกรณ์ภายในอื่นๆ (ไฟ Ambient Light แบบ LED RGB)
อุปกรณ์วัดความเร็วสะท้อนกระจก Head Up Display

สเปค
   มอเตอร์ไฟฟ้า               มอเตอร์เดี่ยว RWD ให้กำลัง 428 แรงม้า แรงบิด 543 นิวตันเมตร อัตราเร่ง 0-100 ใน 3.8 วินาที

   กำลังเครื่องยนต์ (แรงม้า)  แรงม้า
   ระบบเกียร์                   เกียร์อัตโนมัติ
   รูปแบบเกียร์
   ระบบเบรค ABS           มี
   ชนิดแบตเตอรี่             ไฟฟ้า
   ความจุแบตเตอรี่          67 kWh
   ระยะทางวิ่ง/การชาร์จ 1 ครั้ง       470 กิโลเมตร ตามมาตรฐาน NEDC
   น้ำหนักตัวรถ                          -
   ประเภทยางรถยนต์                   -
   ขนาดล้อ (นิ้ว)                     ล้ออัลลอย (20 นิ้ว)
   ระบบขับเคลื่อน                    ขับเคลื่อนสี่ล้อ (AWD)

ระบบความปลอดภัยระบบความปลอดภัย

อุปกรณ์ความปลอดภัย
ระบบควบคุมการทรงตัวอัตโนมัติ
เซ็นทรัลล็อค (ระบบปลดล็อคประตูฉุกเฉิน และปลดล็อคเมื่อเกิดการชน)
กุญแจนิรภัย (แบบ NFC Tag และ Keyfob)
ระบบกระจายแรงเบรก EBD
เข็มขัดนิรภัย
ระบบช่วยการออกตัวขณะจอดบนทางลาดชัน (ระบบควบคุมลงทางลาดชัน HDC)
อื่นๆ (ระบบป้องกันการพลิกคว่ำ ARP)
ระบบป้องกันล้อหมุนฟรี TRC (Electronic Traction Control (TCS/ASR))
กล้อง (360 องศา, Digital Video Record)
ระบบเพิ่มแรงเบรกฉุกเฉิน EBA (Emergency Brake Assist) และระบบเบรกอัตโนมัติ BOS (Brake Override System (พร้อมไฟกระพริบ Brake Assist System)
เทคโนโลยีสัญญาณเตือนเมื่อเสี่ยงต่อการชนรถยนต์ด้านหน้าขณะขับขี่อัจฉริยะ (Intelligent Forward Collisio (และด้านหลัง)
เทคโนโลยีช่วยเบรกฉุกเฉินอัจฉริยะ (Intelligent Emergency Braking - IEB) (ขณะเข้าโค้ง)
เทคโนโลยีเตือนจุดอับสายตา (Blind Spot Warning - BSW)
เทคโนโลยีตรวจจับวัตถุด้านหลังรถขณะถอย (Rear Cross Traffic Alert - RCTA) (และ FCTA (Front Cross Traffic Assist))
จุดยึดเบาะนั่งสำหรับเด็ก
เสียงเตือนคาดเข็มขัดนิรภัย (และเตือนคนเดินถนนในความเร็วต่ำ)
ระบบเตือนแรงดันลมยาง
ADAS ระบบช่วยเหลือการขับขี่ขั้นสูง (PEB (Parking Emergency Braking) - EMA (Evasive Maneuver Assist) - APA (Automated Parking Assist))

11
มอเตอร์ไซด์ใหม่: ฮอนด้า Honda Lead 125 Ohlins Special Edition ปี 2024
72,200 บาท

ฮอนด้า Honda Lead 125 Ohlins Special Edition ปี 2024
Honda Lead125 Ohlins Special Edition ยกระดับความเท่ด้วยโช้คอัพที่มาพร้อมกับเทคโนโลยี STX 46 สุดล้ำจาก Ohlins โช้คแบรนด์ชั้นนำระดับโลก ขับขี่มั่นใจเหนือระดับเสริมความพรีเมียมในทุกรายละเอียดด้วยสติกเกอร์ Ohlins รอบคัน โดดเด่นด้วย Emblem สีทองและสติกเกอร์วงล้อสะท้อนความสปอร์ตล้ำเหนือใคร ผลิตจำนวนจำกัดเพียง 500 คันเท่านั้น ในราคาแนะนำ 72,200 บาท พร้อมวางจำหน่ายตั้งแต่วันที่ 15 พฤศจิกายน 2567 เป็นต้นไป

รายละเอียดเบื้องต้น
   แบรนด์           Honda
   รุ่น                ฮอนด้า Honda Lead 125 Ohlins Special Edition ปี 2024
   ประเภทรถ        รถครอบครัวกึ่งสปอร์ต
   ปีที่เปิดตัว        2024
   ราคา             72,200 บาท

สเปค
   รูปแบบเกียร์     เกียร์ออโต้
   ระบบเกียร์       V-Matic แบบสายพาน (V-Belt)
   รายละเอียดเครื่องยนต์    eSP+ แบบซิงเกิ้ลโอเวอร์เฮดแคมชาฟท์
   ระบบระบายความร้อน     น้ำ
   ระบบสตาร์ท               สตาร์ทไฟฟ้า (มือ)
   ขนาดเครื่องยนต์ (CC)   124.77 CC
   แบบเครื่องยนต์           4 จังหวะ (esp+)
   ระบบจุดระเบิด            Full Transistorized
   ประเภทน้ำมันเชื้อเพลิง  เบนซิน 91, แก๊สโซฮอล์ 95 (E10), แก๊สโซฮอล์ 91, แก๊สโซฮอล์ E20, เบนซิน 95
   ระบบจ่ายน้ำมัน           หัวฉีด (PGM-Fi)
   ความจุถังน้ำมัน (ลิตร)   6 ลิตร
   ระบบกันสะเทือน         ล้อหน้า เทเลสโคปิค, ล้อหลัง ยูนิตสวิง พร้อมโช้คหลัง OHLINS
   ระบบเบรค                ล้อหน้า ดิสก์เบรก (ไฮดดรอลิก คาลิปเปอร์สีแดง), ล้อหลัง ดรัมเบรก ()
   แบบวงล้อ                แมกซ์
   ขนาดยาง                ล้อหน้า 90/90-12 44J, ล้อหลัง 100/90-10 56J
   ขนาด (ยาวxกว้างxสูง มม.) 1,844 x 698 x 1,132
   น้ำหนักตัวรถ                   114.00 กก.

12
สร้างอาชีพ จากการขายข้าวผัดไส้อั่วผสมผสานเครื่องเทศหอมกรุ่นกับรสชาติที่จัดจ้านที่คุณต้องลองให้ได้

ข้าวผัดไส้อั่วเป็นอาหารสตรีทฟู้ดยอดนิยมในประเทศไทย โดยเฉพาะทางภาคเหนือเป็นการผสมผสานรสชาติที่เป็นเอกลักษณ์ของไส้อั่วเข้ากับข้าวผัด ทำให้ได้รสชาติที่อร่อยลงตัว มีทั้งความหอมของเครื่องเทศในไส้อั่ว ความเค็มเผ็ดเล็กน้อยและความอร่อยของข้าวผัด ข้าวผัดไส้อั่วเป็นอาหารริมทางที่ต้องลองให้ได้ เพราะผสมผสานเครื่องเทศหอมกรุ่นกับรสชาติที่จัดจ้าน

อาหารจานยอดนิยมนี้ซึ่งมีต้นกำเนิดจากภาคเหนือของประเทศไทย ผสมผสานรสชาติของข้าวผัดเข้ากับไส้อั่ว ซึ่งเป็นไส้กรอกภาคเหนือแบบดั้งเดิมของไทย ที่ทำจากหมูสับ สมุนไพร และเครื่องเทศ

ไส้อั่วคืออะไร?
ไส้อั่วเป็นไส้หมูสับปรุงรสด้วยสมุนไพร เช่น ตะไคร้ ใบมะกรูด กระเทียม ขมิ้น และพริก จากนั้นจึงนำไส้ที่ผสมแล้วมายัดไส้ด้วยไส้ธรรมชาติแล้วนำไปย่างจนสุกพอดี ทำให้ไส้ด้านนอกกรอบและด้านในชุ่มฉ่ำ ไส้อั่วไม่เพียงแต่เป็นที่นิยมในภาคเหนือเท่านั้น แต่ยังเป็นที่ชื่นชอบของคนทั่วประเทศด้วยรสชาติที่โดดเด่นและกลิ่นหอม

ข้าวผัดไส้อั่ว : ความลงตัวที่ลงตัว
ข้าวผัดไส้อั่วเป็นการผสมผสานระหว่างข้าวผัดกับไส้กรอกย่างที่หอมกรุ่น ข้าวผัดมักผัดกับผัก ไข่ และเครื่องปรุงต่างๆ โดยใส่ไส้อั่วลงไปเพื่อเพิ่มรสชาติ ไส้กรอกหั่นเป็นชิ้นพอดีคำเพื่อให้ข้าวมีกลิ่นหอมของเครื่องเทศและสมุนไพร

ข้าวผัดมักเสิร์ฟพร้อมเครื่องเคียงสด เช่น ผักชีฝรั่ง ต้นหอม และมะนาวฝานเป็นแว่น เพื่อเพิ่มรสชาติที่สดชื่นให้กับจานนี้ นอกจากนี้ยังสามารถเสิร์ฟซอสถั่วเหลืองหรือผักดองรสเปรี้ยวเพื่อเพิ่มรสชาติได้อีกด้วย

จะหาได้ที่ไหน
ข้าวผัดไส้อั่วมีขายตามแผงขายอาหารริมทางและร้านอาหารท้องถิ่นทั่วประเทศไทย ข้าวผัดไส้อั่วมักเสิร์ฟเป็นอาหารมื้อเที่ยงหรือมื้อเย็นแบบด่วนๆ และด้วยส่วนผสมที่ลงตัวจึงทำให้เป็นเมนูที่เหมาะสำหรับผู้ที่ต้องเดินทางบ่อยๆ

ทำไมคุณถึงควรลอง
ข้าวผัดไส้อั่วไม่ใช่แค่เพียงอาหาร แต่เป็นประสบการณ์ที่แสดงให้เห็นถึงรสชาติที่เข้มข้นและเป็นเอกลักษณ์ของภาคเหนือของประเทศไทย ไม่ว่าคุณจะเป็นแฟนของอาหารข้างทางหรือเพียงแค่ต้องการลองอะไรใหม่ๆ อาหารจานนี้ก็มีรสชาติอันน่ารื่นรมย์ของวัฒนธรรมไทย การผสมผสานของเครื่องเทศ สมุนไพร และไส้กรอกรสเผ็ดทำให้เป็นเมนูที่ลืมไม่ลงสำหรับคนรักอาหารทุกคน

ครั้งหน้าที่คุณไปเดินเล่นตามท้องถนนที่มีชีวิตชีวาของประเทศไทย อย่าลืมแวะร้านค้าท้องถิ่นและเพลิดเพลินกับอาหารริมทางที่อร่อยและน่าพึงพอใจนี้


13
หากพบการรั่วซึม ของท่องลมร้อน ควรแก้ปัญหาอย่างไร

หากพบการรั่วซึมของท่อลมร้อนในโรงงาน ควรรีบดำเนินการแก้ไขโดยเร็วที่สุด เพื่อป้องกันการสูญเสียพลังงาน ลดความเสี่ยงด้านความปลอดภัย และรักษาประสิทธิภาพของระบบ โดยมีขั้นตอนการแก้ไขปัญหาดังนี้ครับ:

1. การประเมินสถานการณ์เบื้องต้น:

ระบุตำแหน่งที่รั่ว: พยายามระบุตำแหน่งที่เกิดการรั่วซึมอย่างแม่นยำ อาจสังเกตจากเสียงลม, ความรู้สึกถึงลมร้อนที่ผิดปกติ, หรือร่องรอยความเสียหายบริเวณท่อและข้อต่อ
ประเมินขนาดและความรุนแรงของการรั่ว: การรั่วเล็กน้อยอาจแก้ไขได้ง่ายกว่าการรั่วขนาดใหญ่ที่อาจส่งผลกระทบต่อแรงดันและอัตราการไหลของลมในระบบ
ตรวจสอบสภาพแวดล้อม: ดูว่าบริเวณที่รั่วซึมมีความเสี่ยงด้านความปลอดภัยหรือไม่ (เช่น ใกล้สารไวไฟ, อุปกรณ์ไฟฟ้า)


2. การดำเนินการเบื้องต้นเพื่อความปลอดภัย:

แจ้งผู้เกี่ยวข้อง: แจ้งหัวหน้างาน ฝ่ายบำรุงรักษา และฝ่ายความปลอดภัยให้ทราบถึงปัญหาที่พบ
กั้นบริเวณ (ถ้าจำเป็น): หากการรั่วซึมมีความรุนแรง หรืออยู่ในบริเวณที่อาจเป็นอันตราย ควรทำการกั้นบริเวณเพื่อป้องกันอุบัติเหตุ
ลดแรงดัน (ถ้าทำได้และปลอดภัย): หากสามารถทำได้โดยไม่กระทบต่อความปลอดภัยของกระบวนการผลิต ควรพิจารณาลดแรงดันในระบบท่อลมร้อนเพื่อลดความรุนแรงของการรั่วไหล


3. การตรวจสอบอย่างละเอียด:

ตรวจสอบรอยแตกหรือรู: มองหารอยแตก รู หรือการฉีกขาดบนพื้นผิวท่อ
ตรวจสอบข้อต่อ: ตรวจสอบบริเวณข้อต่อต่างๆ ว่ามีการคลายตัว, แตกหัก, หรือซีลเสื่อมสภาพหรือไม่
ตรวจสอบวัสดุซีล: หากเป็นการรั่วซึมบริเวณข้อต่อ ให้ตรวจสอบสภาพของวัสดุซีล (เช่น ปะเก็น, เทปพันเกลียว) ว่ายังอยู่ในสภาพดีหรือไม่
ตรวจสอบบริเวณที่มีการกัดกร่อน: หากท่อมีการกัดกร่อน อาจทำให้เกิดรูรั่วได้ง่าย


4. การแก้ไขปัญหา (ขึ้นอยู่กับสาเหตุและความรุนแรง):

การซ่อมแซมชั่วคราว (สำหรับการรั่วเล็กน้อย):
เทปทนความร้อน: สำหรับรอยรั่วขนาดเล็ก อาจใช้เทปทนความร้อนสูงพันบริเวณที่รั่วซึมหลายๆ รอบ เพื่อปิดรอยรั่วชั่วคราว (วิธีนี้ใช้ได้เฉพาะกรณีฉุกเฉินและควรได้รับการซ่อมแซมถาวรโดยเร็ว)
แคลมป์ซ่อมท่อ: หากเป็นการรั่วบริเวณท่อตรง อาจใช้แคลมป์ซ่อมท่อที่มีวัสดุซีลยางรัดบริเวณที่รั่วซึม

การซ่อมแซมถาวร:
การเชื่อม: หากท่อเป็นโลหะ และรอยรั่วไม่ใหญ่มาก อาจทำการเชื่อมปิดรอยรั่ว โดยช่างเชื่อมที่มีความชำนาญและอุปกรณ์ที่เหมาะสม
การเปลี่ยนข้อต่อหรือส่วนของท่อ: หากข้อต่อแตกหัก หรือท่อมีรอยแตกขนาดใหญ่ หรือมีการกัดกร่อนมาก ควรเปลี่ยนข้อต่อหรือส่วนของท่อใหม่
การเปลี่ยนวัสดุซีล: หากการรั่วซึมเกิดจากวัสดุซีลเสื่อมสภาพ ควรเปลี่ยนปะเก็นหรือพันเทปเกลียวใหม่ให้แน่นหนา

การบำรุงรักษาเชิงป้องกัน:
การตรวจสอบและขันข้อต่อ: ตรวจสอบและขันข้อต่อต่างๆ ให้แน่นเป็นประจำ
การเปลี่ยนวัสดุซีลตามอายุการใช้งาน: เปลี่ยนปะเก็นหรือวัสดุซีลอื่นๆ ตามอายุการใช้งานที่ผู้ผลิตแนะนำ
การป้องกันการกัดกร่อน: หากพบร่องรอยการกัดกร่อน ควรหาวิธีป้องกันเพิ่มเติม เช่น การเคลือบผิวท่อด้วยสารป้องกันการกัดกร่อน


5. การทดสอบหลังการซ่อมแซม:

ทดสอบแรงดัน: หลังจากทำการซ่อมแซมแล้ว ควรทำการทดสอบแรงดันในระบบ (ตามคู่มือและมาตรฐานความปลอดภัย) เพื่อตรวจสอบว่าการรั่วซึมได้รับการแก้ไขแล้ว และไม่มีรอยรั่วใหม่เกิดขึ้น


6. การบันทึกและวิเคราะห์:

บันทึกรายละเอียด: บันทึกรายละเอียดของการรั่วซึม สาเหตุที่คาดการณ์ วิธีการแก้ไข และวันที่ทำการซ่อมแซม
วิเคราะห์สาเหตุ: วิเคราะห์หาสาเหตุของการรั่วซึม เพื่อวางแผนการบำรุงรักษาเชิงป้องกันที่เหมาะสม และลดโอกาสการเกิดปัญหาซ้ำในอนาคต


ข้อควรระวัง:

ความปลอดภัยเป็นอันดับแรก: การซ่อมแซมท่อลมร้อนอาจเกี่ยวข้องกับอุณหภูมิและความดันสูง ควรให้ความสำคัญกับความปลอดภัยของผู้ปฏิบัติงานเป็นอันดับแรก
ผู้เชี่ยวชาญ: สำหรับการซ่อมแซมที่ซับซ้อน หรือเกี่ยวข้องกับระบบหลัก ควรให้ช่างผู้ชำนาญหรือผู้เชี่ยวชาญด้านระบบท่อลมร้อนเป็นผู้ดำเนินการ
ปฏิบัติตามคู่มือ: ปฏิบัติตามคู่มือการใช้งานและการบำรุงรักษาของผู้ผลิตท่อลมร้อนและอุปกรณ์ต่างๆ อย่างเคร่งครัด
การแก้ไขปัญหาการรั่วซึมของท่อลมร้อนอย่างรวดเร็วและถูกวิธี จะช่วยรักษาประสิทธิภาพของระบบ ลดความเสี่ยง และประหยัดค่าใช้จ่ายในระยะยาวครับ

14
ส่วนไหนของบ้านที่จำเป็นต้องติดตั้ง ผ้ากันไฟที่สุด

ในบ้าน ส่วนที่จำเป็นต้องติดตั้งผ้ากันไฟมากที่สุดคือ ห้องครัว ครับ

เหตุผล:

ความเสี่ยงสูงต่อการเกิดไฟ: ห้องครัวเป็นบริเวณที่มีความเสี่ยงต่อการเกิดไฟไหม้สูงที่สุด เนื่องจากมีแหล่งความร้อนหลายอย่าง เช่น เตาแก๊ส เตาไฟฟ้า หม้อทอด เครื่องปิ้งขนมปัง และยังมีการใช้น้ำมันปรุงอาหาร ซึ่งเป็นเชื้อเพลิงอย่างดีสำหรับไฟ
ไฟจากน้ำมันกระทะ: เหตุการณ์ไฟไหม้ที่พบบ่อยที่สุดในครัวคือไฟที่เกิดจากน้ำมันในกระทะลุกไหม้ ซึ่งสามารถลุกลามได้อย่างรวดเร็ว การมีผ้ากันไฟไว้ใกล้เคียงจะช่วยให้สามารถดับไฟได้ทันทีก่อนที่จะลุกลามไปยังส่วนอื่น
ความเสียหายรวดเร็ว: ไฟไหม้ในครัวสามารถสร้างความเสียหายให้กับเครื่องครัว ตู้ เฟอร์นิเจอร์ และโครงสร้างบ้านได้อย่างรวดเร็ว การดับไฟได้ตั้งแต่เนิ่นๆ จะช่วยลดความเสียหายได้อย่างมาก


รองลงมา บริเวณอื่นๆ ที่ควรพิจารณาติดตั้งผ้ากันไฟ:

ห้องนั่งเล่น: หากมีเตาผิง หรือมีการใช้เครื่องใช้ไฟฟ้าที่มีความร้อนสูง เช่น เครื่องทำความร้อน
ห้องนอน: หากมีการใช้เครื่องทำความร้อนไฟฟ้า หรือมีอุปกรณ์ไฟฟ้าอื่นๆ ที่อาจก่อให้เกิดไฟ
ห้องซักรีด: หากมีเครื่องอบผ้า ซึ่งอาจเป็นสาเหตุของการเกิดไฟได้
ใกล้กับแผงควบคุมไฟฟ้า: แม้จะไม่ใช่บริเวณที่เกิดไฟบ่อยนัก แต่หากเกิดไฟฟ้าลัดวงจร การมีผ้ากันไฟไว้ใกล้เคียงอาจช่วยควบคุมสถานการณ์เบื้องต้นได้


หลักการพิจารณาตำแหน่งติดตั้ง:

ใกล้แหล่งความเสี่ยง: ติดตั้งในบริเวณที่ใกล้กับแหล่งที่อาจก่อให้เกิดไฟมากที่สุด
เข้าถึงง่าย: ติดตั้งในตำแหน่งที่สามารถหยิบใช้งานได้อย่างรวดเร็วในกรณีฉุกเฉิน
มองเห็นชัดเจน: ติดตั้งในที่ที่มองเห็นได้ง่าย และทุกคนในบ้านรู้ตำแหน่ง


สรุป:

ห้องครัว คือบริเวณที่สำคัญที่สุดในการติดตั้งผ้ากันไฟ เนื่องจากมีความเสี่ยงต่อการเกิดไฟไหม้สูงที่สุดและไฟสามารถลุกลามได้อย่างรวดเร็ว การมีผ้ากันไฟติดไว้ในครัวจะช่วยให้คุณสามารถรับมือกับเหตุการณ์ไม่คาดฝันได้อย่างรวดเร็วและลดความเสียหายได้ครับ

15
จัดฟันบางนา: หลายคนสงสัย ! การจัดฟันแบบใส เจ็บหรือไม่ ?

การจัดฟัน ถือเป็นที่ได้รับความนิยมเป็นอย่างมากในปัจจุบัน ซึ่งการจัดฟันแบบทั่วไปที่มีเหล็กจัดฟันนั้น หลายคนคงเคยกับประสบปัญหา การระคายเคืองในช่องปาก เนื่องจาก โดนเหล็กจัดฟันเกี่ยวจนอาจจะเกิดแผลภายในช่องปากได้ แต่ต้องเข้ารับการตรวจช่องปากในทุกๆเดือน และในบางครั้งอาจจะมีการดึงฟัน ทำให้รู้สึกเจ็บปวด

หากเทียบกับการจัดฟันแบบใสแล้ว จะมีความเจ็บปวดที่น้อยกว่า เพราะไม่ต้องทำการถอนฟันก่อนเข้ารับการจัดฟัน และเมื่อใส่เครื่องมือจัดฟันแล้ว จะไม่เกิดการระคายเคือง ไม่รู้เจ็บปวดขณะที่ใส่เครื่องมือด้วย นอกจากนี้เวลารับประทานอาหารก็ไม่ทำให้ปวดฟัน เนื่องจากสามารถถอดเครื่องมือจัดฟันออกได้ ในเวลาที่รับประทานอาหารและแปรงฟัน

ซึ่งหากต้องการเข้ารับการจัดฟันแบบใส ทางคลีนิค เรามีทีมทันตแพทย์ที่มีความเชี่ยวชาญในการทำการรักษา และมีประสบการณ์การทันตกรรมมาหลายปี จึงสามารถให้คำปรึกษาและคำแนะนำผู้ที่จะเข้าทำการรักษาได้ รวมถึงทางคลีนิค มีเครื่องมือที่ทันสมัย จึงมีความมั่นใจได้ว่า การเข้ารับการจัดฟันแบบใสที่คลีนิคผู้เข้ารับการรักษาจะได้รับการบริการที่เป็นที่น่าประทับใจอย่างแน่นอน


การจัดฟันแบบใส ใช้เวลาการรักษาเร็วกว่าทั่วไปถึง 30 %

การจัดแบบใส INVISALIGN ถือเป็นการจัดฟันอีกรูปแบบหนึ่งที่ได้รับความนิยมเป็นอย่างมากในปัจจุบัน โดยทางคลีนิคของเรา มีทีมแพทย์ที่ทำการรักษาที่มีประสบการณ์มาอย่างยาวนาน รวมถึงมีความปลอดภัยอย่างสูงสุด และผลการรักษาที่เป็นที่น่าพอใจ โดยการจัดฟันแบบใส INVISALIGN มีข้อดีหลายอย่างไม่ว่าจะเป็น การใช้เทคโนโลยีเข้ามาช่วยในการรักษา เจ็บปวดน้อยลง รวมไปถึงมองเห็นเครื่องมือได้ยาก

หลายคนเลือกเข้ารับการจัดฟันแบบใส INVISALIGN ด้วยเหตุผลที่ว่า มองเห็นเครื่องมือได้ยาก และสามารถถอดออกได้เวลารับประทานอาหาร นอกจากนี้ การจัดฟันแบบใสยังมีข้อดีอีกอย่างก็คือ ในเรื่องของระยะเวลาในการจัดฟัน จะเร็วกว่าการจัดฟันแบบทั่วไป ที่มีเหล็กจัดฟัน ถึง 30 % โดยจะทำให้การจัดเรียงของฟัน ดูสวยเป็นธรรมชาติ ด้วยระยะเวลาอันรวดเร็ว

ทางคลีนิค เรามีเครื่องมือทางการทันตกรรมที่พร้อม รวมถึงได้รับการรับรองจากสถาบันที่สหรัฐอเมริกา ให้ทำการจัดฟันแบบ INVISALIGN ได้ ผู้เข้ารับการรักษาจึงมั่นใจได้ถึงความปลอดภัย และมาตรฐานของการรักษา ทางรามีทันตแพทย์คอยให้คำปรึกษา และสถานที่ที่สะอาด มีมาตรฐานรองรับ มีเจ้าหน้าที่ที่เป็นกันเองคอยให้บริการ ซึ่งจะทำให้ผู้เข้ารับการรักษารู้สึกประทับใจทุกการบริการ

หน้า: [1] 2 3 ... 53






















































อยากขายของดี
ขายของออนไลน์ยังไงให้มีคนซื้อ
ขายสินค้าไม่สต๊อกสินค้า
เริ่มขายของออนไลน์
รับทำ seo ด่วน
smf โพสฟรี
smf ขายของออนไลน์อะไรดี
smf โพสฟรี
แคปชั่นแม่ค้าออนไลน์ โพสฟรี
โพสฟรีแคปชั่นโพสขายของยังไงให้ปัง
smf แคปชั่นแม่ค้าออนไลน์
ขายของให้ออร์เดอร์เข้ารัว ๆ
smf โพสต์เรียกลูกค้า
โพสต์เรียกลูกค้าโพสฟรี
smf ขายของออนไลน์ให้ปัง
smf โพสต์ขายของ
smf เขียนโพสขายของโดนๆ
แคปชั่นเปิดร้าน โพสฟรี
smf วิธีโพสขายของให้น่าสนใจ
วิธีเพิ่มยอดขาย โพสฟรี
smf เทคนิคเพิ่มยอดขาย
ขายของออนไลน์ยังไงให้มีคนซื้อ
smf เริ่มต้นขายของออนไลน์
ไอ เดีย การขายของออนไลน์
เว็บขายของออนไลน์
เริ่ม ขายของออนไลน์ โพสฟรี
อยากขายของออนไลน์ smf
โพสขายของยังไงให้มีคนซื้อ
smf โพสขายของแบบไหนดี
smf ขายของออนไลน์ที่ไหนดี
เทคนิคการโพสต์ขายของ
smf โพสต์ขายของให้ยอดขายปัง
โพสต์ขายของให้ยอดขายปังโพสฟรี
smf ขายของในกลุ่มซื้อขายสินค้า
ไม่รู้จะขายอะไรดี

เพิ่มยอดขายให้เข้าเป้า
โปรโมทผลักดันยอดขาย
โปรโมทแผนการเพิ่มยอดขายให้ได้ผล
โปรโมทวิธีการวางแผนการเพิ่มยอดขาย
มีลูกค้าเพิ่ม - YouTube
ผลักดันยอดขายโปรโมทฟรี
ประกาศฟรีเพิ่มยอดขาย
ลงประกาศเพิ่มยอดขาย
ฝากร้านฟรีเพิ่มยอดขาย
ลงประกาศฟรีใหม่ ๆ เพิ่มยอดขาย
เว็บประกาศฟรีเพิ่มยอดขาย
Post ฟรี
ประกาศขายของฟรี
ประกาศฟรี
โพส SEO
ลงโฆษณาฟรี
โปรโมทเพจร้านค้า
โปรโมทกระตุ้นยอดขาย
โปรโมทฟรีออนไลน์กระตุ้นยอดขาย
โพสกระตุ้นยอดขาย
วิธีกระตุ้นยอดขาย เซลล์
วิธีแก้ปัญหายอดขายตก
เริ่มต้นขายของ
แหล่งรับของมาขายออนไลน์
ขายของออนไลน์อะไรดี
อยากขายของออนไลน์
ยอดขายไม่ดีควรทำอย่างไร
ยอดขายตกเกิดจากอะไร
ทำไมต้องเพิ่มยอดขาย
ขายฟรี
ยอดการขาย คืออะไร
กลยุทธ์เพิ่มยอดขาย
โพสฟรีการกระตุ้นยอดขาย
เว็บบอร์ดฟรี
โปรโมทฟรี

กลยุทธ์การหาลูกค้าใหม่
ทํายังไงให้ขายของดี ออนไลน์
วิธีการหาลูกค้าของ sale
ทำ SEO ติด Google
ต้องการขาย
ปล่อยเช่า บ้าน คอนโด ที่ดิน
ขายบ้าน คอนโด ที่ดิน
ประกาศฟรี ไม่มี หมดอายุ
เว็บประกาศฟรี ติดอันดับ
ฝากร้านฟรี โพ ส ฟรี
ลงประกาศฟรี กรุงเทพ
ลงประกาศฟรี ทั่วไทย
ลงประกาศโฆษณาฟรี
ลงประกาศฟรี 2023
รวมเว็บลงประกาศฟรี
วิธีหาลูกค้ากลุ่มเป้าหมาย
การหาลูกค้าใหม่ รักษาลูกค้าเก่า
ช่องทางการเข้าถึงลูกค้า
เพิ่มฐานลูกค้าใหม่
รวมเว็บลงประกาศฟรี ล่าสุด
รวมเว็บประกาศฟรี
โพสต์ขายของฟรี
ลงโฆษณาสินค้าฟรี
โฆษณาฟรี
ประกาศฟรี
เว็บฟรีไม่จำกัด
ลงประกาศขาย
เว็บฟรียอดนิยม
โพสโฆษณา
ประกาศขายของ
ประกาศหางาน
บริการ แนะนำเว็บ
ลงประกาศ
รวมเว็บประกาศฟรี
รวมเว็บซื้อขาย ใช้งานง่าย
ลงประกาศฟรี ทุกจังหวัด

โพสขายสินค้าตรงกลุ่มเป้าหมาย
โฆษณาเลื่อนประกาศได้
ขายของออนไลน์
แนะนำ 6 วิธีขายของออนไลน์
อยากขายของออนไลน์
เริ่มต้นขายของออนไลน์
ขายของออนไลน์ เริ่มยังไง
ชี้ช่องขายของออนไลน์
การขายของออนไลน์
สร้างเว็บฟรีประกาศ
เว็บบอร์ด โพสต์ฟรี
ลงประกาศ ซื้อ-ขาย ฟรี
ชุมชนคนไอทีขายสินค้า
ลงประกาศฟรีใหม่ๆ 2023
โปรโมทธุรกิจฟรี
ทําไงให้ลูกค้าเข้าร้านเยอะ ๆ
กลยุทธ์เพิ่มยอดขาย
เคล็ดลับขายของดี
ค้าขายไม่ดีทำอย่างไรดี
งานโพสโปรโมทงาน
ทํายังไงให้ขายของดี ออนไลน์
รวม SMFขายสินค้า
ประกาศฟรีออนไลน์
ลงประกาศ สินค้า
ลงประกาศฟรี เว็บบอร์ด
เว็บบอร์ดขายสินค้าฟรี
ฟรี เว็บบอร์ด แรงๆ
โปรโมทสินค้าฟรี
แจกฟรี รายชื่อเว็บลงประกาศฟรี
โปรโมท Social
โปรโมท youtube
แจกฟรี รายชื่อเว็บ
แจกฟรีโพสเว็บบอร์ดsmf
เว็บบอร์ดsmfโพสฟรี
รายชื่อเว็บบอร์ดขายสินค้าฟรี
หากลยุทธ์เพิ่มยอดขาย