แสดงกระทู้

This section allows you to view all posts made by this member. Note that you can only see posts made in areas you currently have access to.


Messages - siritidaphon

หน้า: [1] 2 3 ... 61
1
จัดฟันบางนา: โรคฟันผุในเด็ก มีผลกระทบต่อสุขภาพอย่างไรบ้าง

โรคฟันผุ เป็นโรคที่พบได้บ่อยประมาณ 80% ของคนทั่วไป โดยเฉพาะอย่างยิ่งในเด็กที่ชอบกินของหวานหรือน้ำตาลและไม่ได้แปรงฟันให้สะอาด ซึ่งโรคฟันผุนั้น เป็นปัญหาของใครหลายๆคนที่มักจะเจอบ่อยในกลุ่มผู้ที่ทำความสะอาดช่องปากและฟันได้ไม่ดีหรือไม่สะอาด หรือเกิดจากเชื้อโรคที่พบได้ตามปกติในช่องปากทำการย่อยสลายอาหารจำพวกแป้งและน้ำตาล เกิดเป็นกรดซึ่งทำให้เกิดการทำลายโครงสร้างของฟัน

หากปล่อยทิ้งไว้โดยไม่ทำการรักษา จะลุกลามเพื่มขึ้น จนทำให้ฟันแตกเป็นรู เป็นช่อง และถ้าลุกลามมากขึ้นอีก จะก่อให้เกิดความเจ็บปวด หรือฟันเป็นหนอง และอาจต้องถอนฟันนั้นในที่สุด การที่เราสูญเสียฟันธรรมชาติไป ไม่ว่าจะด้วยสาเหตุอะไรก็ส่งผลต่อการใช้ชีวิตประจำวันด้วยกันทั้งนั้น ไม่ว่าจะเป็นส่งผลกระทบในเรื่องของบุคลิกภาพ ทำให้ไม่มั่นใจหรืออุปสรรคในการรับประทานอาหาร ทำให้ไม่สามารถบดเคี้ยวอาหารได้ตามปกติ ซึ่งการที่เราบดเคี้ยวอาหารได้ไม่ดีนั้น อาจจะส่งผลต่อสุขภาพร่างกายได้ ยกตัวอย่างเช่น อาจจะส่งผลต่อระบบย่อยอาหาร ทำให้ระบบย่อยอาหารทำงานหนักมากยิ่งขึ้น เป็นต้น นอกจากนี้ยังส่งผลต่อร่างกายในด้านอื่นๆอีกมากมาย ซึ่งเราสามารถป้องกันได้ด้วยการทำความสะอาดช่องปากและฟัน รักษาสุขภาพช่องปากและฟัน เพื่อให้ไม่ต้องเกิดการสูญเสียฟันธรรมชาติไป สำหรับวันนี้ทาง คลินิกเราจะมาพูดเรื่องของโรคฟันผุในเด็กที่อาจจะส่งผลต่อสุขภาพของร่างกายได้

เมื่อพบว่าบุตรหลานของท่านมีอาการปวดฟัน นั้นคือสัญญาณที่บ่งบอกว่ารอยผุมีขนาดใหญ่และลุกลามไปมากแล้ว และควรได้รับการรักษาหรือรับการตรวจสุขภาพช่องปากและฟันอย่างละเอียด ซึ่งอาการปวดฟันอาจจะมีตั้งแต่ปวดน้อยไปจนถึงปวดมาก จนเด็กไม่สามารถใช้กัดหรือบดเคี้ยวอาหารได้เป็นปกติ เมื่อเด็กเริ่มมีอาการปวดฟันมากขึ้นจะทำให้ส่งผลต่อการเจริญเติบโตของเด็กด้วยเช่นเดียวกัน

เนื่องจากเด็กจะมีความอยากอาหารน้อยลงหรือเลือกกินมากขึ้น ส่งผลให้เด็กขาดสารอาหารที่จำเป็นต่อการเจริญเติบโตของร่างกายด้วย และเมื่อเด็กปวดฟันมากจนนอนไม่หลับก็จะกระทบต่อการหลั่งฮอร์โมนกระตุ้นการเจริญเติบโต ซึ่งอาจมีผลกระทบต่อพัฒนาการทางร่างกายของเด็กได้ นอกจากนี้ ในวัยเด็กอาจจะมีปัญหาฟันผุลุกลามไปมาก สามารถพบการติดเชื้อและเป็นหนองลุกลามไปยังอวัยวะข้างเคียงได้ เช่น แก้ม ดวงตา และสมอง หรืออาจทำให้เกิดการติดเชื้อในกระแสเลือดได้ จนอาจเป็นอันตรายถึงชีวิตเลยทีเดียว และไม่ใช่แค่การส่งผลโดยตรงต่อสุขภาพของเด็กเพียงอย่างเดียว โรคฟันผุยังทำให้เด็กเกิดปัญหาทางด้านจิตใจและอารมณ์ด้วย เพราะการมีฟันผุทำให้เด็กขาดความมั่นใจในการพูด อาจจะมีการออกเสียงผิดได้ เนื่องจากฟันมีการเปลี่ยนสีหรือมีรูปร่างที่ผิดปกติ หรือการที่เด็กต้องถอนฟันน้ำนมออกก่อนที่ฟันแท้ขึ้นก็ส่งผลต่อฟันที่กำลังงอกใหม่ให้มีการล้มเอียงส่งผลเสียต่อสุขภาพช่องปากในระยะยาวได้


เพราะฉะนั้น พ่อแม่ผู้ปกครอง ควรที่จะดูแลสุขภาพช่องปากและฟันของบุตรหลานของท่านให้มาก เพื่อลดความเสี่ยงของปัญหาฟันผุ และอาจจะกระทบต่อสุขภาพร่างกายได้  แต่ในผู้ใหญ่ก็มีโอกาสเสี่ยงต่อฟันผุได้เช่นเดียวกัน จากอาการปากแห้งเนื่องจากไม่ค่อยมีน้ำลายได้เช่นกัน ซึ่งอาการปากแห้งนั้นก็มีสาเหตุมาจากอาการป่วยหรือมีโรคประจำตัว เช่น โรคเบาหวาน การใช้ยาปฏิชีวนะ ยาแก้แพ้ ยาแก้โรคซึมเศร้า การรักษาด้วยการฉายแสงหรือจากการใช้เคมีบำบัด และการสูบบุหรี่ที่เป็นปัจจัยเสี่ยงทำให้เกิดทั้งฟันผุและโรคเหงือกอักเสบ เป็นต้น

ถึงแม้ว่าการเกิดฟันผุ จะเกิดขึ้นได้ง่ายกับเด็ก แต่ก็สามารถป้องกันหรือลดความเสี่ยงที่ทำให้ฟันผุได้ด้วยหลายวิธี ทั้งการเลือกแปรงสีฟันที่เหมาะสมกับเด็ก การเลือกยาสีฟัน การปลูกฝังให้เด็กแปรงฟันอย่างถูกวิธี และไปพบทันตแพทย์เพื่อเข้ารับการตรวจฟันเป็นประจำอย่างน้อยปีละ 2 ครั้ง และเมื่อทันตแพทย์ตรวจพบรอยผุขนาดเล็ก ก็จะทำการรักษาได้ไม่ยุ่งยาก หากรอจนฟันผุลุกลามหรือเด็กมีอาการปวดฟันแล้วจึงค่อยไปพบทันตแพทย์ ก็อาจสายเกินไปที่จะรักษาฟันซี่นั้นไว้ได้ ดังนั้นพ่อแม่ผู้ปกครอง จะต้องคอยปลูกฝังในเรื่องอขงการดูแลรักษาความสะอาดสุขภาพช่องปากและฟันของบุตรหลานของท่านตั้งแต่เด็กๆ เพื่อให้เด็กๆได้ดูแลรักษาความสะอาดอย่างถูกวิธี เพื่อสุขภาพช่องปากและฟันที่ดี


อย่างไรก็ตาม ทางคลินิกเรามีทีมทันตแพทย์ที่มีความเชี่ยวชาญในเรื่องของสุขภาพช่องปากและฟันของเด็ก คอยให้คำปรึกษาและแก้ไขปัญหาสุขภาพฟันของเด็กตั้งแต่เนิ่นๆ ทั้งนี้ หากลูกน้อยมีปัญหาสุขภาพฟัน ทางคลินิกเราก็มีบริการจัดฟันในเด็ก ที่สามารถช่วยให้บุตรหลานของท่านมีสุขภาพช่องปากและฟันที่ดีได้ จึงทำให้มั่นใจได้ว่า บุตรหลานของท่านจะมีสุขภาพช่องปากและฟันที่ดีขึ้นได้อย่างแน่นอน



2
จัดฟันบางนา: อร่อยดีและมีประโยชน์ รวมอาหารบำรุงฟัน แข็งแรงด้วยการกิน

เชื่อว่าหลายๆท่านอาจจะทราบกันเป็นอย่างดีแล้วว่า “แคลเซียม” มีส่วนช่วยอย่างมากในการบำรุงกระดูกและฟัน ให้มีสุขภาพที่ดีและแข็งแรง แต่หลายๆท่านอาจจะยังไม่ทราบว่า แคลเซียมนั้นจะมีประสิทธิภาพอย่างเต็มที่ คือส่งแร่ธาตุกลับเข้าสู่กระดูกและฟันได้อย่างเต็มที่นั้น ต้องรับประทานคู่กับอาหารที่มีฟอสเฟส หรือ ฟอสฟอรัส

เนื่องจากว่า ฟอสฟอรัส จะทำงานร่วมกับแคลเซียมในการทำหน้าที่เป็นโครงสร้างของกระดูกและฟัน แถมยังกระตุ้นระบบประสาทได้เป็นอย่างดีอีกด้วย

ซึ่งในวันนี้จะขอมาแนะนำอาหารที่มีทั้งแคลเซียมและฟอสฟอรัส เพื่อให้ท่านผู้อ่านสามารถรับประทานได้อย่างถูกต้องเพื่อสุขภาพฟัน และ กระดูกที่แข็งแรงคงทนอย่างมีประสิทธิภาพ โดยมีรายละเอียดดังต่อไปนี้


อาหารที่มี “แคลเซียม” และ “ฟอสฟอรัส” สูง

– นมหรือผลิตภัณฑ์จากนม

ต้องขอบอกเลยว่า นม เป็นหนึ่งในอาหารอันดับต้นๆที่เต็มไปด้วย แคลเซียม และ ฟอสฟอรัส ซึ่งท่านสามารถรับประทานได้ทั้งนมจืด นมพร่องมันเนย นมข้น นมผง นมเปรี้ยว โยเกิร์ต ไอศกรีมนม ชีส ช็อกโกแลต เนยแข็ง เป็นต้น

– ถั่วต่างๆ

เป็นอีกหนึ่งตัวเลือกสำหรับท่านที่มีอาการแพ้นมวัว สามารถทดแทนได้โดยการรับประทาน เต้าหู้ เต้าฮวย กระยาสารท และอาหารที่ทำจากถั่วทั้งหมด

– ธัญพืช

หลายๆท่านยังอาจจะสงสัยว่าธัญพืชนั้นมีอะไรบ้าง ขอแนะนำดังต่อไปนี้ เมล็ดพืชต่างๆ เช่น เมล็ดแตงโม เมล็ดทานตะวัน เมล็ดฟักทอง มะม่วงหิมพานต์ อัลมอลด์ ข้าวกล้อง ข้าวโอ้ต ลูกเดือย งาดำ เป็นต้น

– เนื้อสัตว์

สำหรับเนื้อสัตว์ที่กล่าวถึงนี้ เป็นเนื้อสัตว์ที่สามารถรับประทานได้ทั้งกระดูก เช่น กุ้งแห้ง ปลากรอบ ปลาเล็กปลาน้อย ครีบปลา เป็นต้น


อาหารที่ “ทำร้ายสุขภาพฟัน” ควรหลีกเลี่ยง

– ลูกอม

ลูกอมโดยส่วนใหญ่แล้วจะมีความแข็ง จึงทำให้ต้องอมไว้ในปากเป็นเวลานานๆ ซึ่งส่วนประกอบหลักของลูกอมนั้นจะเต็มไปด้วยน้ำตาล หากว่าเราทำการอมเป็นระยะเวลานานๆก็จะเป็นการเปิดโอกาสให้น้ำตาลเข้าไปเกาะสะสมที่บริเวณฟันและเหงือกอย่างแน่นหนา และต้องใช้เวลานานกว่าจะย่อยสลายได้ ซึ่งก็ได้สร้างความเสียหายให้เหงือกและฟันเป็นอย่างมากไปแล้วนั่นเอง

– เครื่องดื่มที่เป็นกรด

ต้องขอบอกนิดหนึ่งว่าน้ำผลไม้บางชนิด ให้ประโยชน์ต่อร่างกายหากรับประทานในปริมาณที่พอเหมาะ เนื่องจากว่า น้ำผลไม้ น้ำเกลือแร่ รวมถึงน้ำอัดลม โดยมากแล้วจะมีน้ำตาลและกรด ซึ่งอย่างที่ทราบกันดีอยู่แล้วว่า ทั้งน้ำตาลและกรด สามารถทำร้ายฟัน และเป็นต้นเหตุสำคัญของฟันผุได้ หากเป็นไปได้ควรหลีกเลี่ยง แต่หากว่าจำเป็นที่จะต้องรับประทานจริงๆ หลังรับประทานเสร็จแนะนำว่าควรบ้วนน้ำล้างปากทันที

– ขนมเค้ก

ขนมหวานต่างๆส่วนใหญ่แล้วจะมีส่วนผสมของน้ำตาลเป็นหลัก ซึ่งขนมหวานเหล่านี้จะมีความเหนียว และสามารถเกาะติดแน่นบนผิวฟันได้ง่าย เกิดเป็นคราบสะสมและกัดกร่อนฟันของท่านได้ และอาจจะส่งผลทำให้น้ำตาลสามารถเข้าไปตามเหงือกจนสามารถทำให้เกิดเหงือกอักเสบได้ ทางที่ดีควรแปรงฟันให้สะอาดทุกครั้งหลังจากรับประทานขนมหวานเหล่านี้

– แป้ง

ต้องถือว่าเป็นอะไรที่หลีกเลี่ยงยากมากๆสำหรับอาหารที่มีส่วนประกอบหลักคือแป้ง เพราะแป้งนั้นมีอยู่ใน ข้าว พาสต้า หรือแม้แต่ในมันฝรั่งก็เช่นกัน เนื่องจากว่าสารอาหารเหล่านี้สามารถเปลี่ยนเป็นน้ำตาลได้ ซึ่งก็อย่างที่ทราบกันดีแล้วว่า น้ำตาล คืออันตรายอย่างแท้จริง

– น้ำแข็ง

น้ำแข็ง ถือว่าเป็นหนึ่งในของแข็งที่มีอันตรายต่อฟัน และเป็นสิ่งที่ใกล้ตัวเอามากๆ ในขณะที่ท่านเคี้ยวน้ำแข็งสามารถทำลายเคลือบฟันของท่าน ทำให้ไม่มีอะไรปกป้องเนื้อฟันของท่านได้ ซึ่งเมื่อเนื้อฟันไม่มีเคลือบฟันก็จะทำให้เชื้อแบคทีเรียต่างๆเข้าไปกัดกินได้ง่ายส่งผลให้ฟันผุนั่นเอง

– ถั่วเนื้อแข็ง

การเคี้ยวถั่วที่มีเนื้อแข็งอาจจะทำให้เคลือบฟันของท่านถูกทำลาย และยังไม่พอเท่านั้นอาจจะส่งผลให้ท่านที่ใส่ฟันปลอมเกิดการแตกหักได้ง่าย แต่ก็ต้องบอกเลยว่าถั่วก็ถือว่าเป็นอาหารที่มีประโยชน์ต่อร่างกายที่ควรรับประทาน แต่แนะนำว่าให้เลือกรับประทานถั่วขนาดเล็กลง ก็สามารถได้รับประโยชน์เท่าถั่วเปลือกแข็งเม็ดใหญ่ไม่ต่างกัน

ทั้งหมดนี้ก็คือ อาหารที่ดี และ อันตรายต่อฟัน การที่ท่านจะมีสุขภาพฟันที่ดี หรือสุขภาพร่างกายที่ดีสิ่งหนึ่งที่ต้องทำเป็นอย่างยิ่ง คือ ปรับเปลี่ยนพฤติกรรมการรับประทาน เพียงเท่านี้ท่านก็จะมีสุขภาพร่างกาย และสุขภาพช่องปากที่แข็งแรงตามมานั่นเอง

3
เทคนิคการเลือกท่อเฟล็กซ์ ท่อลมร้อนสำหรับงานระบบระบายอากาศในโรงงานอุตสาหกรรม

ปัจจัยที่ต้องพิจารณาในการเลือกท่อเฟล็กซ์ และแนวทางการเลือกท่อเฟล็กซ์ให้เหมาะสมกับงานแต่ละประเภท มีอะไรบ้าง เลือกยังไงให้คุ้มค่า ติดตามกันได้เลย

ต้องขออธิบายก่อนว่า ท่อเฟล็กซ์เป็นท่อลมชนิดยืดหยุ่นที่ใช้งานได้หลากหลาย นิยมใช้ในงานระบบระบายอากาศและระบบปรับอากาศ ทั้งในอาคารและโรงงานอุตสาหกรรม ท่อเฟล็กซ์มีข้อดีหลายประการ เช่น ติดตั้งง่าย น้ำหนักเบา ทนทานต่อแรงดึงและแรงกดได้ดี รวมถึงป้องกันการรั่วไหล

การเลือกท่อเฟล็กซ์ให้เหมาะสมกับงานระบบระบายอากาศในโรงงานอุตสาหกรรมนั้น มีความสำคัญอย่างยิ่ง เพราะจะช่วยให้ระบบระบายอากาศทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพและปลอดภัย ช่วยลดความเสี่ยงที่จะเกิดปัญหาต่างๆ เช่น อากาศรั่วไหล อากาศไม่สะอาด หรือการชำรุดเสียหายของท่อเฟล็กซ์

เลือกท่อเฟล็กซ์ยังไง ให้คุ้มค่าที่สุดสำหรับโรงงานอุตสาหกรรม

การเลือกท่อเฟล็กซ์ที่เหมาะสมกับงานจะช่วยให้ระบบระบายอากาศทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพและปลอดภัย ช่วยลดความเสี่ยงที่จะเกิดปัญหาต่างๆ เช่น อากาศรั่วไหล อากาศไม่สะอาด หรือการชำรุดเสียหายของท่อเฟล็กซ์นอกจากนี้ การเลือกท่อเฟล็กซ์ให้คุ้มค่าที่สุดสำหรับโรงงานอุตสาหกรรมนั้น จำเป็นต้องพิจารณาปัจจัยอื่นๆ เพิ่มเติม ซึ่งเราจะกล่าวให้คุณได้ทราบดังนี้

    ประเภทของอากาศที่ต้องการระบาย
    เนื่องจากแต่ละโรงงานอุตสาหกรรมนั้นมีอุณหภูมิ ความชื้น และความสะอาดที่แตกต่างกัน ดังนั้นจึงจำเป็นต้องเลือกใช้ท่อเฟล็กซ์ที่มีวัสดุและคุณสมบัติที่เหมาะสม เราขอยกตัวอย่างเช่น
        โรงงานอุตสาหกรรมการผลิตอาหาร จำเป็นต้องใช้ท่อเฟล็กซ์ที่ทนทานต่อความชื้นและสารเคมี เพื่อป้องกันการปนเปื้อนอาหาร
        โรงงานอุตสาหกรรมผลิตสารเคมี จำเป็นต้องใช้ท่อเฟล็กซ์ที่ทนทานต่ออุณหภูมิสูงและสารเคมีที่เป็นอันตราย เพื่อความปลอดภัยของผู้ปฏิบัติงาน
        โรงงานอุตสาหกรรมผลิตไฟฟ้า จำเป็นต้องใช้ท่อเฟล็กซ์ที่ทนทานต่ออุณหภูมิสูงและแรงดันสูง เพื่อประสิทธิภาพของระบบระบายอากาศ เป็นต้น

    กล่าวโดยสรุปแล้ว การเลือกท่อเฟล็กซ์ให้เหมาะสมกับประเภทของอากาศที่ต้องการระบาย จะช่วยให้ระบบระบายอากาศทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพและปลอดภัย ช่วยลดความเสี่ยงที่จะเกิดปัญหาต่างๆ เช่น อากาศรั่วไหล อากาศไม่สะอาด หรือเกิดการปนเปื้อนของสารเคมี

         อุณหภูมิของอากาศที่ต้องการระบาย
    เนื่องจากว่าท่อเฟล็กซ์แต่ละประเภทจะมีอุณหภูมิการใช้งานที่แตกต่างกัน ท่อเฟล็กซ์บางประเภทอาจทนอุณหภูมิได้สูงถึง 100 องศาเซลเซียส ในขณะที่ท่อเฟล็กซ์บางประเภทอาจทนอุณหภูมิได้เพียง 80 องศาเซลเซียส หากเลือกท่อเฟล็กซ์ที่มีอุณหภูมิการใช้งานต่ำกว่าอุณหภูมิของอากาศที่ต้องการระบาย อาจทำให้ท่อเฟล็กซ์เกิดการชำรุดเสียหายได้ เช่น เกิดการแตกร้าว บวม หรือหดตัว ซึ่งอาจส่งผลต่อประสิทธิภาพของระบบระบายอากาศและความปลอดภัยของผู้ปฏิบัติงาน

    ขอยกตัวอย่างเช่น โรงงานอุตสาหกรรมผลิตอาหารที่มีกระบวนการผลิตที่มีอุณหภูมิสูง จำเป็นต้องใช้ท่อเฟล็กซ์ที่ทนอุณหภูมิสูงได้ เพื่อไม่ให้ท่อเฟล็กซ์เกิดการชำรุดเสียหายจากความร้อน เป็นต้น

         แรงดันของอากาศที่ต้องการระบาย
    แรงดันของอากาศที่ต้องการระบาย เป็นอีกปัจจัยหนึ่งที่ต้องพิจารณาในการเลือกท่อเฟล็กซ์ เนื่องจากว่าท่อเฟล็กซ์แต่ละประเภทจะมีแรงดันใช้งานที่แตกต่างกัน ท่อเฟล็กซ์บางประเภทอาจทนแรงดันได้สูงถึง 100 พาสคัล ในขณะที่ท่อเฟล็กซ์บางประเภทอาจทนแรงดันได้เพียง 50 พาสคัล หากเลือกท่อเฟล็กซ์ที่มีแรงดันการใช้งานต่ำกว่าแรงดันของอากาศที่ต้องการระบาย อาจทำให้ท่อเฟล็กซ์เกิดการชำรุดเสียหายได้ เช่น เกิดการแตกร้าว บวม หรือหดตัว ซึ่งอาจส่งผลต่อประสิทธิภาพของระบบระบายอากาศและความปลอดภัยของผู้ปฏิบัติงาน

หากยังไม่ค่อยเห็นภาพ เราขอยกตัวอย่างเช่น

        โรงงานอุตสาหกรรมผลิตไฟฟ้าที่มีกระบวนการผลิตที่มีแรงดันสูง จำเป็นต้องใช้ท่อเฟล็กซ์ที่ทนแรงดันสูงได้ เพื่อไม่ให้ท่อเฟล็กซ์เกิดการชำรุดเสียหายจากแรงดัน

        โรงงานอุตสาหกรรมผลิตอาหารที่มีกระบวนการผลิตที่มีอุณหภูมิและแรงดันสูง จำเป็นต้องใช้ท่อเฟล็กซ์ที่ทนอุณหภูมิและแรงดันสูงได้ เพื่อประสิทธิภาพของระบบระบายอากาศ

นอกจากนี้ แรงดันของอากาศยังส่งผลต่อการเลือกขนาดของท่อเฟล็กซ์อีกด้วย โดยท่อเฟล็กซ์ที่มีขนาดเส้นผ่านศูนย์กลางใหญ่กว่าจะสามารถทนแรงดันได้มากกว่าท่อเฟล็กซ์ที่มีขนาดเส้นผ่านศูนย์กลางเล็กกว่า ดังนั้นจึงควรเลือกขนาดของท่อเฟล็กซ์ให้เหมาะสมกับแรงดันของอากาศที่ต้องการระบายด้วย

         ระยะทางที่ต้องการส่งอากาศ
    นับเป็นอีกหนึ่งปัจจัยที่คุณอย่ามองข้ามเด็ดขาด เนื่องจากท่อเฟล็กซ์แต่ละประเภทจะมีอัตราการสูญเสียแรงดันที่แตกต่างกัน ท่อเฟล็กซ์บางประเภทอาจมีอัตราการสูญเสียแรงดันต่ำ ในขณะที่ท่อเฟล็กซ์บางประเภทอาจมีอัตราการสูญเสียแรงดันสูง ทั้งนี้หากเลือกท่อเฟล็กซ์ที่มีอัตราการสูญเสียแรงดันสูง อาจทำให้ระบบระบายอากาศทำงานไม่มีประสิทธิภาพ เนื่องจากต้องใช้พัดลมที่มีกำลังสูงเพื่อส่งอากาศไปยังระยะทางที่ต้องการ ตัวอย่างเช่น

        โรงงานอุตสาหกรรมที่มีพื้นที่ขนาดใหญ่ จำเป็นต้องใช้ท่อเฟล็กซ์ที่มีอัตราการสูญเสียแรงดันต่ำ เพื่อไม่ให้สูญเสียแรงดันอากาศมากเกินไประหว่างการส่งอากาศไปยังพื้นที่ต่างๆ
        โรงงานอุตสาหกรรมที่มีพื้นที่จำกัด ไม่จำเป็นต้องใช้ท่อเฟล็กซ์ที่มีอัตราการสูญเสียแรงดันต่ำ เนื่องจากระยะทางที่ต้องการส่งอากาศไม่ไกลมาก

โดยสรุปแล้ว การเลือกท่อเฟล็กซ์ให้เหมาะสมกับระยะทางที่ต้องการส่งอากาศ จะช่วยให้ระบบระบายอากาศทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพและประหยัดพลังงาน นอกจากนี้แล้ว ระยะทางที่ต้องการส่งอากาศยังส่งผลต่อการเลือกขนาดของท่อเฟล็กซ์ โดยท่อเฟล็กซ์ที่มีขนาดเส้นผ่านศูนย์กลางใหญ่กว่าจะสามารถส่งอากาศได้ไกลกว่าท่อเฟล็กซ์ที่มีขนาดเส้นผ่านศูนย์กลางเล็กกว่า ดังนั้น จึงควรเลือกขนาดของท่อเฟล็กซ์ให้เหมาะสมกับระยะทางที่ต้องการส่งอากาศด้วยเช่นกัน

     สภาพแวดล้อมของโรงงานอุตสาหกรรม

    ต้องบอกเลยว่าท่อเฟล็กซ์แต่ละประเภทจะมีวัสดุและคุณสมบัติที่แตกต่างกัน ซึ่งจำเป็นมาก ๆ ที่จะต้องเลือกท่อเฟล็กซ์ที่มีวัสดุและคุณสมบัติที่เหมาะสมกับสภาพแวดล้อมของโรงงานอุตสาหกรรม เราขอยกตัวอย่างสภาพแวดล้อมของโรงงานอุตสาหกรรมที่ควรพิจารณาในการเลือกท่อเฟล็กซ์ ได้แก่
        อุณหภูมิ โรงงานอุตสาหกรรมที่มีกระบวนการผลิตที่มีอุณหภูมิสูง จำเป็นต้องใช้ท่อเฟล็กซ์ที่ทนอุณหภูมิสูงได้
        ความชื้น โรงงานอุตสาหกรรมที่มีสภาพแวดล้อมที่มีความชื้นสูง จำเป็นต้องใช้ท่อเฟล็กซ์ที่ทนความชื้นได้
        สารเคมี โรงงานอุตสาหกรรมที่ใช้สารเคมี จำเป็นต้องใช้ท่อเฟล็กซ์ที่ทนสารเคมีได้
        สิ่งสกปรก โรงงานอุตสาหกรรมที่มีสภาพแวดล้อมที่มีสิ่งสกปรกสูง จำเป็นต้องใช้ท่อเฟล็กซ์ที่ทนสิ่งสกปรกได้
        ฝุ่นละออง โรงงานอุตสาหกรรมที่มีสภาพแวดล้อมที่มีฝุ่นละอองสูง จำเป็นต้องใช้ท่อเฟล็กซ์ที่ทนฝุ่นละอองได้
        แรงดัน โรงงานอุตสาหกรรมที่มีกระบวนการผลิตที่มีแรงดันสูง จำเป็นต้องใช้ท่อเฟล็กซ์ที่ทนแรงดันสูงได้
        ความยืดหยุ่น โรงงานอุตสาหกรรมที่มีพื้นที่แคบหรือมีสิ่งกีดขวาง จำเป็นต้องใช้ท่อเฟล็กซ์ที่มีความยืดหยุ่นสูง

โดยสรุปแล้ว การเลือกท่อเฟล็กซ์ให้เหมาะสมกับสภาพแวดล้อมของโรงงานอุตสาหกรรม จะช่วยให้ระบบระบายอากาศทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพและปลอดภัย ช่วยลดความเสี่ยงที่จะเกิดปัญหาต่างๆ เช่น อากาศรั่วไหล อากาศไม่สะอาด หรือเกิดการปนเปื้อนของสารเคมี

4
บริหารจัดการอาคาร: แอร์สกปรก ส่งผลเสียต่อสุขภาพอย่างไร

อากาศในเมืองไทยของเราต้องบอกว่า มีอากาศที่ร้อนอบอ้าวมากซึ่งหลายบ้านส่วนใหญ่นิยมติดตั้งเครื่องปรับอากาศเพื่อคลายร้อนเพราะให้ความรู้สึกเย็นสบายท่ามกลางอากาศที่ร้อนแต่เราก็ต้องยอมแลกกับค่าใช้จ่ายที่ต้องเสียไปไม่ว่าจะเป็นค่าติดตั้งเครื่องปรับอากาศค่าไฟที่ต้องเพิ่มมากขึ้นอย่างมหาศาล แต่หากเราติดเครื่องปรับอากาศเพื่ออำนวยความสะดวกก็ต้องมั่นใจว่าเครื่องปรับอากาศของเรานั้น จะมีอายุการใช้งานที่นานและมีการใช้งานที่มีประสิทธิภาพ

ซึ่งหลายบ้านต้องติดตั้งเครื่องปรับอากาศภายในบ้านเครื่องใหม่และอาจจะสงสัยว่าช่วงที่ช่างที่มาติดตั้งเครื่องปรับอากาศที่บ้านของเรานั้นทำงานเรียบร้อยหรือไม่หรือติดตั้งเครื่องปรับอากาศในตำแหน่งที่ถูกต้องหรือเปล่าเพราะปัจจัยที่กล่าวมานั้น ส่งผลต่อการทำงานของเครื่องปรับอากาศภายในบ้านของเรา
เพราะถ้าหากเราจะต้องเสียงเงินเพื่อติดตั้งเครื่องปรับอากาศใหม่แล้วก็ต้องมั่นใจว่าเครื่องปรับอากาศที่เราติดตั้งไปแล้ว จะไม่เกิดปัญหาในภายหลัง

แล้วเราจะมั่นใจได้อย่างไรว่า เครื่องปรับอากาศที่ติดตั้งอยู่ภายในบ้านของเรานั้นมีระบบแอร์ที่ถูกต้องและถูกติดตั้งในตำแหน่งที่เหมาะสมเพื่อให้เครื่องปรับอากาศทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพและประหยัดค่าใช้จ่ายในเรื่องของค่าไฟฟ้าแต่ที่สำคัญที่สุดของการใช้งานเครื่องปรับอากาศก็คือ เราจะต้องล้างทำความสะอาดเครื่องปรับอากาศของเราตามเวลาที่กำหนด เช่น อย่างน้อยปีละ 2 ครั้ง เพื่อบำรุงรักษาเครื่องปรับอากาศของเราและการที่แอร์มีความสะอาด โดยที่ไม่มีการสะสมของฝุ่นก็จะช่วยให้แอร์ทำงานไม่หนักและประหยัดค่าใช้จ่าย

ซึ่งถือว่าเป็นเรื่องที่ดี ทั้งยังช่วยทำให้คนในบ้านมีสุขภาพที่ดีไม่เสี่ยงต่อการเกิดโรคปอดอักเสบจากการใช้งานเครื่องปรับอากาศด้วยดังนั้น วันนี้เราจะมาพูดถึงผลเสียต่อสุขภาพที่มาจากการใช้งานแอร์ที่มีความสกปรกโดยขาดการล้างทำความสะอาด

หลายคนทราบกันดีอยู่แล้วว่า การที่เราไม่ล้างทำความะสอาดแอร์นั้นจะส่งผลทำให้เรามีความเสี่ยงที่จะเกิดโรคที่เกี่ยวกับระบบทางเดินหายใจ
เนื่องจากห้องที่มีแอร์หรือเครื่องปรับอากาศนั้น จะต้องมีการปิดประตูหน้าต่างสนิทด้วยเหตุนี้เองทำให้เชื้อโรคสามารถเจริญเติบโตได้ดี และหากอยู่ในห้องแอร์ที่เปิดอุณหภูมิต่ำกว่า 25 องศาอากาศภายในห้องก็จะแห้งทำให้เซลล์ต่างๆ อย่างเซลล์เยื่อบุโพรงจมูกแห้งลงกว่าเดิม

ดังนั้น คนที่อยู่ในห้องแอร์นานๆ จึงอาจจะป่วยเป็นโรคระบบทางเดินหายใจได้ เช่น หวัด ภูมิแพ้ เป็นต้น

นอกจากนี้ยังส่งผลทำให้เกิดโรคลีเจียนแนร์ซึ่งเป็นโรคที่เกิดจากเชื้อแบคทีเรียโดยการสูดหายใจเอาเชื้อที่ปนเปื้อนอยู่ในละอองน้ำเข้าสู่ร่างกายโดยจะมีอาการคือจะมีไข้ขึ้นสูง ไอ หนาวสั่นลักษณะโรคลีเจียนแนร์จะเป็นชนิดแบบรุนแรง จึงมีภาวะปอดอักเสบด้วยทำให้การหายใจล้มเหลวและมีอัตราการเสียชีวิตสูง

รวมไปถึงโรคไข้ปอนเตียก เป็นโรคที่เกิดจากเชื้อแบคทีเรียแต่ไม่รุนแรงเมื่อเทียบกับโรคลีเจียนแนร์ เพราะโรคไข้ปอนเตียกมักจะหายเองภายใน 2-5 วัน
แม้จะไม่ได้รับการรักษา ส่วนลักษณะอาการจะคล้ายกับไข้หวัดใหญ่นั่นเอง

อย่างไรก็ตาม เมื่อเรารู้อย่างนี้แล้ว เราจะยังใช้งานแอร์ที่มีความสกปรกอยู่แบบนี้ทำไมเพื่อให้เราได้ใช้งานแอร์อย่างมีประสิทธิภาพและปลอดภัย
ก็ควรที่จะล้างทำความสะอาดแอร์เป็นประจำตามเวลาที่กำหนดเพื่อลดความเสี่ยงที่จะเกิดปัญหาสุขภาพในอนาคต

ดังนั้น การที่เราใช้แอร์ที่มีความสะอาด บำรุงรักษามาเป็นอย่างดีนอกจากจะช่วยในเรื่องสุขภาพของคนในครอบครัวแล้ว ยังช่วยยืดอายุการใช้งานของแอร์อีกด้วยแถมยังช่วยประหยัดค่าใช่จ่ายภายในบ้านได้อีกเยอะเลยทีเดียว

อย่างไรก็ตาม หากคุณอยากที่จะตรวจสอบหรือเช็คระบบแอร์ล้างทำความสะอาดโดยช่างที่มีความเชี่ยวชาญที่การันตีด้วยประสบการณ์การทำงานมาอย่างยาวนานก็สามารถขอรายละเอียดได้ทางเรามีบริการดูแลระบบปรับอากาศและหมุนเวียนอากาศภายในอาคารระบบปรับอากาศและหมุนเวียนอากาศเป็นสิ่งจำเป็นมากเพราะนั่นหมายถึงอากาศที่ดีที่เราสูดดมเข้าไป ถ้าหากเรามีระบบเครื่องปรับอากาศที่ไม่สะอาดแล้วอาจจะทำให้เราเสียสุขภาพไปด้วย

5
หมอประจำบ้าน: โรคคุชชิง (Cushing’s syndrome/Hypercortisolism)

โรคคุชชิง (กลุ่มอาการคุชชิง ก็เรียก) เป็นกลุ่มอาการผิดปกติของร่างกายซึ่งเกี่ยวข้องกับภาวะมีกลูโคคอร์ติคอยด์ (glucocorticoid ซึ่งเป็นฮอร์โมนสเตียรอยด์กลุ่มหนึ่ง) มากเกิน เป็นเหตุทำให้เกิดภาวะแทรกซ้อนร้ายแรงได้

สาเหตุ

ส่วนใหญ่เป็นผลมาจากการใช้สารสเตียรอยด์ (กลูโคคอร์ติคอยด์) สังเคราะห์ติดต่อกันนาน ๆ ในบ้านเราพบว่าเกิดจากการใช้สารที่มีสเตียรอยด์ปะปนในรูปของยาชุด ยาหม้อ และยาลูกกลอนที่ผู้ป่วยนิยมซื้อใช้เองโดยความรู้เท่าไม่ถึงการณ์ นอกจากนี้อาจพบในผู้ป่วยที่จําเป็นต้องใช้ยาสเตียรอยด์ในการบำบัดรักษาโดยแพทย์ เช่น เอสแอลอี โรคปวดข้อรูมาตอยด์ โรคไตเนโฟรติก ผู้ป่วยหลังผ่าตัดปลูกถ่ายอวัยวะ เป็นต้น

ส่วนน้อยเกิดจากต่อมหมวกไต* สร้างฮอร์โมน กลูโคคอติคอยด์ (ส่วนใหญ่ได้แก่ คอร์ติซอล) มากเกิน ดังที่เรียกว่า ภาวะคอร์ติซอลเกิน (hypercortisolism) ซึ่งอาจมีสาเหตุจากเนื้องอกของอวัยวะที่สร้างฮอร์โมนชนิดนี้ เช่น

    เนื้องอกต่อมหมวกไต (adrenal adenoma) และมะเร็งต่อมหมวกไต (adrenal carcinoma) ซึ่งสร้างฮอร์โมนคอร์ติซอลออกมามากผิดปกติ
    เนื้องอกต่อมใต้สมอง (pituitary adenoma) ซึ่งสร้างฮอร์โมนเอซีทีเอช (ACTH) กระตุ้นให้ต่อมหมวกไตสร้างคอร์ติซอลมากเกิน
    เนื้องอกอื่น ๆ ที่พบบ่อย คือมะเร็งปอดชนิด small cell lung carcinoma และเนื้องอกคาร์ซิ-นอยด์ (carcinoid tumor ซึ่งพบในทางเดินอาหาร ตับ ตับอ่อน ถุงน้ำดี ต่อมไทมัส รังไข่ อัณฑะ เป็นต้น) เนื้องอกเหล่านี้สามารถสร้างฮอร์โมนเอซีทีเอช กระตุ้นให้ต่อมหมวกไตสร้างคอร์ติซอลมากเกิน

สำหรับเนื้องอกต่อมหมวกไตและต่อมใต้สมองพบในผู้หญิงมากกว่าผู้ชาย 5 เท่า และพบมากในช่วงอายุ 25-40 ปี ส่วนมะเร็งปอดพบในผู้ชายมากกว่าผู้หญิง ในช่วงวัยกลางคนขึ้นไป

การที่ร่างกายมีสารสเตียรอยด์ (ไม่ว่าในรูปของคอร์ติซอลที่ร่างกายสร้างเอง หรือสารสังเคราะห์ที่รับจากภายนอก) อยู่นาน ๆ ส่งผลให้มีการสะสมไขมันตามร่างกาย (ทำให้อ้วนและมีก้อนไขมันพอก) การสลายตัวของโปรตีนของกล้ามเนื้อ (ทำให้กล้ามเนื้อแขนขาลีบ อ่อนแรง) การสลายตัวของแคลเซียมในกระดูก (ทำให้กระดูกพรุน นิ่วไต) การสร้างกลูโคสที่ตับจากโปรตีนและไขมัน (gluconeogenesis) แล้วปล่อยออกมาในกระแสเลือด (ทำให้เกิดภาวะน้ำตาลในเลือดสูง เบาหวาน) การยับยั้งการสร้างเนื้อเยื่อพังผืดและคอลลาเจน (ทำให้ผิวบาง หนังลาย ฟกซ้ำง่าย แผลหายยาก) การคั่งของโซเดียมในร่างกาย (ทำให้บวม ความดันโลหิตสูง) เพิ่มการสร้างฮอร์โมนเพศชายหรือแอนโดรเจน (ทำให้สิวขึ้น ขนอ่อนขึ้น ประจำเดือนผิดปกติ) ส่งผลต่อจิตใจและอารมณ์ (ทำให้มีอารมณ์เคลิ้ม วิตกกังวล หรือซึมเศร้า อยากอาหาร) กดภูมิคุ้มกัน (ทำให้ติดเชื้อง่าย) กดการสร้างกระดูกและฮอร์โมนกระตุ้นการเจริญเติบโต (ทำให้เด็กเจริญเติบโตช้า)

*ต่อมหมวกไต (adrenal gland) เป็นต่อมไร้ท่อรูปร่างคล้ายผลองุ่นอยู่ตรงส่วนบนของไต (คล้ายหมวกที่ครอบอยู่เหนือยอดไต) ทั้งสองข้างประกอบด้วย 2 ส่วน คือส่วนแกน (medulla) กับส่วนเปลือก (cortex)

ต่อมหมวกไตส่วนแกน มีหน้าที่สร้างฮอร์โมนอะดรีนาลิน (adrenaline) กับนอร์อะดรีนาลิน (noradrenaline) ซึ่งจะช่วยควบคุมการเต้นของหัวใจและความดันโลหิต การสร้างฮอร์โมนทั้งสองชนิดจะถูกกระตุ้นโดยสมอง
ส่วนต่อมหมวกไตส่วนเปลือก จะสร้างฮอร์โมนสเตียรอยด์ (steroid) 3 กลุ่ม ได้แก่

1. แอลโดสเตอโรน (aldosterone) มีหน้าที่ควบคุมระดับเกลือแร่ เช่น โพแทสเซียม โซเดียมให้อยู่ในภาวะสมดุล

2. ฮอร์โมนเพศ ได้แก่ ฮอร์โมนเพศชาย (แอนโดรเจน) และฮอร์โมนเพศหญิง (เอสโทรเจน และโพรเจสเทอโรน) ซึ่งส่วนใหญ่จะสร้างที่อัณฑะและรังไข่

3. กลูโคคอร์ติคอยต์ (glucocorticoid) มีอยู่หลายชนิด ที่สำคัญได้แก่ คอร์ติซอล (cortisol) ซึ่งมีชื่อเรียกอีกชื่อหนึ่งว่า ไฮโดรคอร์ติโซน (hydrocortisone) ฮอร์โมนสเตียรอยด์กลุ่มนี้มีหน้าที่ควบคุมเมตาบอลิซึม (กระบวนการแปรรูปอณู) โดยการสังเคราะห์ (anabolism) และแตกตัว (catabolism) ของคาร์โบไฮเดรต โปรตีน และไขมัน ทำให้ร่างกายเกิดพลังงาน อวัยวะต่าง ๆ ทำหน้าที่ได้ปกติ และช่วยให้ร่างกายสามารถต่อสู้กับความเครียด (เช่น การบาดเจ็บ การเจ็บป่วย การติดเชื้อ การทำงานหนัก ความเครียดทางอารมณ์) ที่เกิดขึ้นได้ นอกจากนี้ยังทำหน้าที่ในการต้านการอักเสบและกดภูมิคุ้มกันของร่างกาย ซึ่งมีประโยชน์ต่อการบรรเทาการอักเสบ และควบคุมภาวะภูมิแพ้และปฏิกิริยาภูมิต้านตนเอง การสร้างฮอร์โมนกลุ่มนี้อยู่ภายใต้การควบคุมของฮอร์โมนเอซีทีเอช (ACTH/adrenocorticotropic hormone) ซึ่งสร้างโดยต่อมใต้สมอง ทำหน้าที่กระตุ้นให้ต่อมหมวกไตสร้างกลูโคคอร์ติคอยด์ และการสร้างเอซีทีเอชก็อยู่ภายใต้การควบคุมของฮอร์โมนซีอาร์เอช (CRH/corticotropin-releasing hormone) ซึ่งสร้างโดยสมองส่วนไฮโพทาลามัสอีกต่อหนึ่ง ในขณะเดียวกันคอร์ติซอลก็ทำหน้าที่ในการทำปฏิกิริยาป้อนกลับต่อฮอร์โมนซีอาร์เอชและเอซีทีเอช กล่าวคือ ถ้าร่างกายมีคอร์ติซอลมากเกิน ก็จะไปยับยั้งไม่ให้สร้างฮอร์โมนซีอาร์เอชและเอซีทีเอช ซึ่งจะทำให้ต่อมหมวกไตลดการสร้างคอร์ติซอลลง ปรากฏการณ์ที่พบได้บ่อยก็คือ การที่ผู้ป่วยใช้สารสเตียรอยด์ (กลูโคคอร์ติคอยด์) สังเคราะห์ ได้แก่ เพร็ดนิโซโลน (prednisolone) และเดกซาเมทาโซน (dexamethasone) ซึ่งออกฤทธิ์เป็น 5 และ 40 เท่าของคอร์ติซอลตามลำดับ ติดต่อกันนาน ๆ จะยับยั้งการสร้างฮอร์โมนซีอาร์เอชและเอซีทีเอช ซึ่งมีผลทำให้ต่อมหมวกไตฝ่อ สร้างคอร์ติซอลได้น้อยลง ถ้าหากมีการหยุดใช้สารสเตียรอยด์สังเคราะห์ทันทีทันใด อาจทำให้เกิดภาวะขาดสเตียรอยด์เฉียบพลัน กลายเป็นภาวะต่อมหมวกไตวิกฤติ (adrenal crisis) ได้

อาการ

มักจะค่อย ๆ เกิดขึ้นช้า ๆ เป็นแรมเดือน ในระยะแรกจะพบว่าผู้ป่วยหน้าอูมขึ้น จนหน้ากลมเป็นวงพระจันทร์และออกสีแดงเรื่อ ๆ มีก้อนไขมันเกิดขึ้นที่แอ่งไหปลาร้า 2 ข้างและที่ต้นคอด้านหลัง (อยู่ระหว่างไหล่ทั้ง 2 ข้าง) แลดูเป็นหนอก ซึ่งทางภาษาแพทย์ เรียกว่า อาการหนอกควาย (buffalo’s hump) รูปร่างอ้วน โดยจะอ้วนมากตรงเอว (พุงป่อง) แต่แขนขากลับลีบเล็กลง ผู้ป่วยจะรู้สึกอ่อนเพลีย เหนื่อยง่าย มีความลำบากในการยกต้นแขนขึ้น เดินขึ้นบันได และลุกจากที่นั่ง

ผิวหนังจะออกเป็นลายสีคล้ำ ๆ ที่บริเวณท้อง (ท้องลายคล้ายคนหลังคลอด) บริเวณสะโพก กระเบนเหน็บ ต้นแขนต้นขา ผิวหนังบางและมีจ้ำเขียวพรายย้ำง่ายเวลาถูกกระทบกระแทก

มักมีสิวขึ้นที่หน้า หน้าอก หลัง และมีขนอ่อนขึ้นที่หน้า ลำตัว และแขนขา (ถ้าพบในผู้หญิงทำให้ดูว่าคล้ายมีหนวดขึ้น) กระดูกอาจผุกร่อน มักทำให้มีอาการปวดหลัง (เพราะกระดูกสันหลังผุ) หรือกระดูกแตกหักง่าย

อาจมีความดันโลหิตสูง หรือมีอาการของเบาหวาน

ผู้หญิงอาจมีเสียงแหบห้าว มีขนมากแบบผู้ชาย ประจำเดือนมักจะออกน้อยหรือไม่มาเลย และมีบุตรยาก

ผู้ป่วยอาจมีความรู้สึกอยากอาหาร ไม่มีความรู้สึกทางเพศ อาจมีอารมณ์แปรปรวน วิตกกังวล ซึมเศร้าหรือกลายเป็นโรคจิต

ในรายที่เป็นเนื้องอกต่อมได้สมอง มักมีอาการปวดศีรษะ ปัสสาวะบ่อย ปัสสาวะตอนกลางคืน ตามัว มีน้ำนมไหลผิดธรรมชาติ และอาจมีอาการของภาวะขาดไทรอยด์ร่วมด้วย


ภาวะแทรกซ้อน

อาจมีภาวะแทรกซ้อนเนื่องมาจากความดันโลหิตสูง หรือเบาหวาน เช่น หัวใจวาย อัมพาตครึ่งซีก โรคหัวใจขาดเลือด

อาจมีการติดเชื้อง่ายซึ่งจะพบบ่อยที่บริเวณผิวหนัง (เช่น ฝี พุพองง่าย โรคเชื้อรา) และทางเดินปัสสาวะ หรือเป็นแผลหายยาก

อาจทำให้เป็นแผลเพ็ปติก ต้อกระจก ต้อหินเรื้อรัง กระดูกหักง่าย นิ่วไต หรือเป็นโรคจิต

ถ้าพบในเด็กอาจทำให้ร่างกายเจริญเติบโตช้า

ที่สำคัญผู้ป่วยที่มีสาเหตุจากการใช้สารสเตียรอยด์มากเกิน ถ้าหากหยุดสเตียรอยด์ทันที (steroid withdrawal) หรือขณะเกิดการเจ็บป่วย ก็อาจเสี่ยงต่อการเกิดภาวะต่อมหมวกไตวิกฤติ (ดู "ภาวะช็อก") เป็นอันตรายถึงเสียชีวิตได้


การวินิจฉัย

แพทย์จะวินิจฉัยจากอาการและสิ่งตรวจพบ ดังนี้

ผู้ป่วยมักมีรูปร่างอ้วน พุงป่อง หน้าอูม มีก้อนไขมันขึ้นที่แอ่งไหปลาร้า 2 ข้างและต้นคอด้านหลัง แขนขาลีบ หน้ามีสิวและขนอ่อนขึ้น ท้องลาย ก้นลาย ผิวหนังบาง พบจ้ำเขียวพรายย้ำ ความดันโลหิตสูง

แพทย์จะทำการวินิจฉัยให้แน่ชัดโดยการตรวจระดับคอร์ติซอลในเลือดและปัสสาวะ ซึ่งพบว่าสูงกว่าปกติ ตรวจระดับเอซีทีเอช (ACTH) ซึ่งจะพบว่าต่ำในผู้ป่วยเนื้องอกต่อมหมวกไต และพบว่าสูงในผู้ป่วยเนื้องอกต่อมใต้สมอง และอาจทำการทดสอบที่เรียกว่า “Dexamethasone suppression test”* และอาจจำเป็นต้องทำการถ่ายภาพด้วยคลื่นแม่เหล็กไฟฟ้าหรือเอกซเรย์คอมพิวเตอร์เพื่อค้นหาเนื้องอกต่าง ๆ

นอกจากนี้อาจต้องทำการตรวจหาภาวะแทรกซ้อนต่าง ๆ เช่น ตรวจเลือด (พบน้ำตาลสูง ไขมันชนิดแอลดีแอลและไตรกลีเซอไรด์สูง โพแทสเซียมต่ำ) เอกซเรย์ (พบร่องรอยกระดูกหัก หัวใจห้องล่างซ้ายโต นิ่วไต)

* โดยให้สเตียรอยด์สังเคราะห์ได้แก่ เดกซาเมทาโซน แก่ผู้ป่วยตอนกลางคืน (23:00 น.) แล้ววัดระดับคอร์ติซอลในเลือดตอนเช้า (08.00 น.) ถ้าพบว่ามีค่าต่ำลงมาก ก็มักจะไม่ใช่โรคคุซซิง (เนื่องจากสารนี้จะไปกดต่อมใต้สมองและต่อมหมวกไตจนลดการสร้างคอร์ติซอล) แต่ถ้าลดลงบางส่วนก็มักจะเป็นเนื้องอกต่อมใต้สมอง ถ้าไม่ลดก็มักจะเป็นเนื้องอกต่อมหมวกไต


การรักษาโดยแพทย์

แพทย์จะให้การดูแลรักษาดังนี้

ในรายที่มีสาเหตุจากการใช้สเตียรอยด์มากเกิน แพทย์จะยังคงให้ผู้ป่วยกินยาสเตียรอยด์ เช่น เพร็ดนิโซโลน แต่จะหาทางค่อย ๆ ลดขนาดของยาลงทีละน้อย และทำการตรวจวัดระดับคอร์ติซอลในเลือดเป็นระยะ ๆ ซึ่งจะค่อย ๆ เพิ่มมากขึ้นจากเดิมที่มีระดับต่ำ จนกลับสู่ระดับปกติในที่สุด ซึ่งมักจะใช้เวลานานเป็นปี จึงจะหยุดยาสเตียรอยด์

ถ้ามีสาเหตุจากการเป็นเนื้องอกของต่อมหมวกไตหรือต่อมใต้สมอง มักจะต้องรักษาด้วยการผ่าตัด แล้วให้กินยาสเตียรอยด์ทดแทนไปจนตลอดชีวิต เพราะภายหลังการผ่าตัดร่างกายสร้างฮอร์โมนชนิดนี้เองไม่ได้


การดูแลตนเอง

หากสงสัย เช่น มีอาการอ่อนเพลีย เหนื่อยง่าย มีความลำบากในการยกต้นแขนขึ้น เดินขึ้นบันได และลุกจากที่นั่ง มีอาการหน้าอูมขึ้น จนหน้ากลมเป็นวงพระจันทร์และออกสีแดงเรื่อ ๆ มีก้อนไขมันเกิดขึ้นที่แอ่งไหปลาร้า 2 ข้างและที่ต้นคอด้านหลัง (อยู่ระหว่างไหล่ทั้ง 2 ข้าง) หรือมีรูปร่างอ้วน โดยจะอ้วนมากตรงเอว (พุงป่อง) แต่แขนขากลับลีบเล็กลง ควรปรึกษาแพทย์

เมื่อตรวจพบว่าเป็นโรคคุชชิง ควรดูแลตนเอง ดังนี้

    รักษา กินยา และปฏิบัติตามคำแนะนำของแพทย์
    ติดตามรักษากับแพทย์ตามนัด


ควรกลับไปพบแพทย์ก่อนนัด ถ้ามีลักษณะข้อใดข้อหนึ่ง ดังต่อไปนี้

    กินยาแล้วอาการไม่ทุเลา มีอาการมีไข้ ปัสสาวะบ่อย กระหายน้ำบ่อย หรือมีการติดเชื้อที่บริเวณผิวหนัง (เช่น ฝี พุพองง่าย โรคเชื้อรา) และทางเดินปัสสาวะ หรือเป็นแผลหายยาก
    ขาดยาหรือยาหาย
    กินยาแล้วสงสัยเกิดผลข้างเคียงจากยา เช่น มีลมพิษ ผื่นคัน ตุ่มพุพอง ตาบวม ปากบวม ปวดท้อง ท้องเดิน คลื่นไส้ อาเจียน จุดแดงจ้ำเขียว หรือมีอาการผิดปกติอื่น ๆ


การป้องกัน

หลีกเลี่ยงการซื้อยาสเตียรอยด์ และยาชุด ยาลูกกลอนที่ใส่สเตียรอยด์มาใช้เอง


ข้อแนะนำ

1. โรคนี้มักเกิดจากการใช้สเตียรอยด์มากเกินเป็นเวลานาน ๆ ดังนั้นจึงไม่ควรใช้ยานี้พร่ำเพรื่อ หรือใช้อย่างผิด ๆ (เช่น การซื้อยาชุด ยาหม้อ หรือยาลูกกลอนที่มียานี้ผสมกินเป็นประจำ) ยกเว้นโรคบางโรคอาจต้องใช้ยานี้รักษา ซึ่งก็ควรจะอยู่ในการดูแลของแพทย์อย่างใกล้ชิด

2. ในรายที่เป็นโรคคุชชิงจากการใช้สเตียรอยด์มากเกิน ระหว่างรอไปพบแพทย์ ห้ามหยุดยาสเตียรอยด์ทันที ควรให้กินสเตียรอยด์ต่อไปจนกว่าแพทย์จะปรับลดขนาดลง มิเช่นนั้นอาจเกิดภาวะขาดสเตียรอยด์อย่างเฉียบพลัน จนเกิดภาวะต่อมหมวกไตวิกฤติ เป็นอันตรายถึงเสียชีวิตได้

3. โรคนี้ถ้าไม่รักษา อาจมีภาวะแทรกซ้อน เป็นอันตรายถึงเสียชีวิตได้

4. ในรายที่เกิดจากเนื้องอกชนิดไม่ร้าย การผ่าตัดจะสามารถช่วยให้ผู้ป่วยมีชีวิตยืนยาวเช่นคนปกติได้ แต่จะต้องกินสเตียรอยด์เข้าไปทดแทนในร่างกายตลอดไป ห้ามขาดยาเป็นอันขาด


6
หมอประจำบ้าน: กลุ่มอาการระบายลมหายใจเกิน (Hyperventilation Syndrome)

กลุ่มอาการระบายลมหายใจเกิน (Hyperventilation Syndrome - HVS) คือภาวะที่บุคคลหายใจเร็วกว่าและลึกกว่าปกติที่ร่างกายต้องการ ทำให้มีการขับก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ (CO2) ออกจากร่างกายมากเกินไป ส่งผลให้ระดับก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ในเลือดลดลงผิดปกติ (Hypocapnia) และทำให้เกิดการเปลี่ยนแปลงทางเคมีในเลือดอื่นๆ ตามมา ซึ่งก่อให้เกิดอาการทางกายและทางจิตใจที่หลากหลาย

สาเหตุของกลุ่มอาการระบายลมหายใจเกิน
สาเหตุหลักของ HVS มักเกี่ยวข้องกับความเครียด ความวิตกกังวล และภาวะทางอารมณ์ แม้ว่าจะไม่ได้เกิดจากการออกกำลังกายหนัก หรือความผิดปกติทางร่างกายที่ชัดเจนในขณะนั้น แต่ก็อาจมีสาเหตุทางกายบางอย่างเป็นตัวกระตุ้นได้:

ภาวะทางอารมณ์/จิตใจ (Psychological Factors):

ความวิตกกังวล (Anxiety): เป็นสาเหตุที่พบบ่อยที่สุด โดยเฉพาะในผู้ที่เป็นโรควิตกกังวลทั่วไป หรือโรควิตกกังวลแบบตื่นตระหนก (Panic Disorder)

ความเครียด (Stress): ความเครียดสะสม หรือเหตุการณ์ที่กระตุ้นความเครียดอย่างรุนแรง

ความกลัว: เช่น กลัวที่แคบ กลัวการขึ้นเครื่องบิน

ภาวะซึมเศร้า:

ปัจจัยทางกายภาพที่อาจกระตุ้น (Physiological Factors):

ความเจ็บปวด: การเจ็บปวดรุนแรง อาจทำให้หายใจเร็วขึ้นโดยไม่รู้ตัว

ไข้: การมีไข้สูง

โรคทางปอด: เช่น หอบหืด โรคปอดอุดกั้นเรื้อรัง (COPD) ที่มีการหายใจลำบากอยู่แล้ว

โรคหัวใจ: เช่น หัวใจเต้นผิดจังหวะ

ยาบางชนิด: เช่น ยาแก้ปวดบางตัว

การตั้งครรภ์: การเปลี่ยนแปลงของฮอร์โมนและการทำงานของปอด

การหายใจผิดปกติโดยไม่รู้ตัว (Habitual Hyperventilation): บางคนอาจมีรูปแบบการหายใจที่ผิดปกติอยู่แล้ว โดยหายใจเร็วและตื้นเป็นประจำ จนเป็นนิสัย ทำให้เกิดอาการได้ง่ายขึ้นเมื่อมีสิ่งกระตุ้น

กลไกการเกิดอาการ

เมื่อหายใจเร็วกว่าปกติ ร่างกายจะขับ CO2 ออกมามากเกินไป ทำให้ระดับ CO2 ในเลือดลดลง (Hypocapnia) การลดลงของ CO2 นี้จะทำให้:

ระดับ pH ในเลือดสูงขึ้น (Alkalosis): เลือดจะมีความเป็นด่างมากขึ้น ซึ่งส่งผลต่อการทำงานของระบบต่างๆ

การจับตัวของออกซิเจนกับฮีโมโกลบินแน่นขึ้น: ทำให้เนื้อเยื่อและสมองได้รับออกซิเจนน้อยลง แม้ว่าระดับออกซิเจนในเลือดจะปกติ

หลอดเลือดสมองหดตัว: ส่งผลให้เลือดไปเลี้ยงสมองลดลง

การเปลี่ยนแปลงระดับเกลือแร่: เช่น แคลเซียมในเลือดลดลง (Functional Hypocalcemia)

การเปลี่ยนแปลงเหล่านี้เองที่ทำให้เกิดอาการต่างๆ ของ HVS

อาการของกลุ่มอาการระบายลมหายใจเกิน

อาการของ HVS มีความหลากหลายและสามารถเกิดขึ้นได้ในหลายระบบของร่างกาย บางครั้งอาจทำให้อาการคล้ายกับโรคหัวใจหรือโรคทางปอดร้ายแรง ทำให้ผู้ป่วยวิตกกังวลมากขึ้น

อาการทางระบบหายใจ:

หายใจเร็ว หายใจหอบถี่ หายใจตื้น

รู้สึกหายใจไม่อิ่ม เหมือนขาดอากาศ

ถอนหายใจบ่อยๆ หรือหาวบ่อยๆ

อาการทางระบบหัวใจและหลอดเลือด:

ใจสั่น หัวใจเต้นเร็ว หรือเต้นผิดจังหวะ

เจ็บหน้าอก หรือแน่นหน้าอก (อาจคล้ายอาการหัวใจขาดเลือด)

หน้ามืด เวียนศีรษะ

อาการทางระบบประสาท:

ชา หรือรู้สึกเสียวซ่า บริเวณรอบปาก มือ และเท้า (อาการ Tetany-like)

เป็นตะคริว หรือมือจีบเกร็ง (Carpopedal Spasm)

มึนงง สับสน

วิงเวียนศีรษะ คล้ายจะหมดสติ

ภาพเบลอ หรือมองเห็นไม่ชัด

อาการทางระบบทางเดินอาหาร:

ท้องอืด แน่นท้อง

คลื่นไส้

ปากแห้ง กลืนลำบาก

อาการทางจิตใจและอารมณ์:

วิตกกังวล ร้อนรน กระสับกระส่าย

ตื่นตระหนก ตกใจกลัว

รู้สึกเหมือนกำลังจะตาย หรือควบคุมตัวเองไม่ได้

ไม่เป็นตัวของตัวเอง (Derealization/Depersonalization)

การวินิจฉัย

การวินิจฉัย HVS มักอาศัยการซักประวัติและอาการเป็นหลัก โดยที่แพทย์จะพยายามตัดสาเหตุทางกายอื่นๆ ที่อาจทำให้เกิดอาการคล้ายกันออกไป เช่น โรคหัวใจ โรคปอด ไทรอยด์เป็นพิษ โดยอาจมีการตรวจเพิ่มเติม เช่น การตรวจเลือด การเอกซเรย์ปอด หรือการตรวจคลื่นไฟฟ้าหัวใจ (EKG)

การรักษาและการจัดการ

การรักษากลุ่มอาการระบายลมหายใจเกินเน้นที่การฟื้นฟูรูปแบบการหายใจให้กลับมาเป็นปกติ และการจัดการกับปัจจัยกระตุ้นทางอารมณ์:

การจัดการอาการเฉียบพลัน (เมื่อมีอาการกำเริบ):

ทำสติและหายใจช้าลง: สิ่งสำคัญที่สุดคือการตั้งสติและพยายามหายใจช้าลง โดยหายใจเข้าลึกๆ ทางจมูก ค้างไว้ 2-3 วินาที แล้วหายใจออกช้าๆ ทางปาก (อาจนับ 1-4 ขณะหายใจเข้า และ 1-6 ขณะหายใจออก)

หายใจใส่ถุงกระดาษ (Paper Bag Breathing): เป็นวิธีที่ช่วยเพิ่มระดับ CO2 ในเลือดได้อย่างรวดเร็ว โดยการหายใจเข้า-ออกในถุงกระดาษที่ครอบปากและจมูก ประมาณ 5-10 นาที (ไม่ควรใช้ถุงพลาสติก และควรทำภายใต้คำแนะนำของแพทย์) อย่างไรก็ตาม ปัจจุบันวิธีนี้ไม่เป็นที่แนะนำสำหรับผู้ที่ไม่มีแพทย์ดูแล เพราะอาจเข้าใจผิดว่าเป็นอาการขาดอากาศจริงๆ และทำให้เสี่ยงต่อการขาดออกซิเจนได้

สงบสติอารมณ์: หาที่สงบๆ นั่งลง ผ่อนคลาย และบอกตัวเองว่าอาการเหล่านี้ไม่อันตรายถึงชีวิต

การรักษาและจัดการระยะยาว:

การบำบัดด้วยการหายใจ (Breathing Retraining): เรียนรู้เทคนิคการหายใจที่ถูกต้อง เช่น การหายใจโดยใช้กะบังลม (Diaphragmatic breathing) เพื่อให้การหายใจมีประสิทธิภาพมากขึ้นและเป็นธรรมชาติมากขึ้น

การจัดการความเครียดและความวิตกกังวล:

การทำจิตบำบัด (Psychotherapy/Counseling): โดยเฉพาะ Cognitive Behavioral Therapy (CBT) ซึ่งช่วยให้ผู้ป่วยเข้าใจและจัดการกับความคิดและพฤติกรรมที่กระตุ้นอาการได้

เทคนิคผ่อนคลาย: เช่น โยคะ การทำสมาธิ ไทชิ หรือการฝึกหายใจ

ออกกำลังกายสม่ำเสมอ: ช่วยลดความเครียดและเสริมสร้างสุขภาพโดยรวม

การใช้ยา: ในบางกรณี แพทย์อาจพิจารณาให้ยาคลายกังวล (Anxiolytics) หรือยาต้านเศร้า (Antidepressants) เพื่อช่วยควบคุมอาการวิตกกังวลหรือภาวะตื่นตระหนก

หลีกเลี่ยงปัจจัยกระตุ้น: หากทราบว่าอะไรเป็นตัวกระตุ้น ควรหลีกเลี่ยงหรือหาวิธีจัดการกับสิ่งเหล่านั้น

การให้ความรู้ (Education): การทำความเข้าใจว่า HVS คืออะไร เกิดจากอะไร และไม่อันตรายถึงชีวิต จะช่วยลดความกังวลและอาการตื่นตระหนกเมื่อเกิดอาการได้

หากคุณมีอาการที่สงสัยว่าเป็นกลุ่มอาการระบายลมหายใจเกิน ควรปรึกษาแพทย์เพื่อรับการวินิจฉัยที่ถูกต้องและวางแผนการจัดการที่เหมาะสม เพื่อให้สามารถควบคุมอาการและกลับมามีคุณภาพชีวิตที่ดีได้ค่ะ

7
การเลือกของตกแต่งบ้าน แบบวินเทจ เก๋ๆ สบายตา

การตกแต่งบ้านสไตล์วินเทจแบบเก๋ๆ สบายตา เป็นการผสมผสานความคลาสสิกของอดีตเข้ากับความเรียบง่ายและอบอุ่น ทำให้บ้านมีเอกลักษณ์เฉพาะตัวและน่าอยู่ครับ หัวใจสำคัญคือการเลือกของตกแต่งที่บอกเล่าเรื่องราวได้ แต่ก็ยังคงความโปร่งโล่งสบายตา ไม่ดูรกจนเกินไป

แนวคิดหลักในการเลือกของตกแต่งสไตล์วินเทจเก๋ๆ สบายตา
เน้นความ "Old but New": ไม่จำเป็นต้องเป็นของเก่าแท้ 100% แต่เป็นของที่มีกลิ่นอายความวินเทจ สามารถผสมผสานกับของตกแต่งสไตล์โมเดิร์นได้อย่างลงตัว

โทนสีคือหัวใจ: เลือกใช้โทนสีที่ให้ความรู้สึกสบายตา เช่น สีพาสเทล (ชมพูอ่อน, ฟ้าอ่อน, เขียวมิ้นท์, ครีม), สีขาวงาช้าง, สีเบจ, หรือสีเอิร์ธโทน (น้ำตาลอ่อน, เขียวหม่น) สีเหล่านี้จะช่วยให้บ้านดูอบอุ่นและโปร่งโล่ง

เลือกของที่มีฟังก์ชัน: ของตกแต่งไม่ควรเป็นแค่ของสวยงาม แต่ควรมีประโยชน์ใช้สอยด้วย จะช่วยลดความรกและทำให้บ้านดูมีระเบียบ

ผสมผสานวัสดุธรรมชาติ: ไม้ เหล็กสาน ผ้าฝ้าย ผ้าลินิน จะช่วยเพิ่มความรู้สึกอบอุ่นและเป็นธรรมชาติ


ไอเดียของตกแต่งสไตล์วินเทจเก๋ๆ สบายตา

1. เฟอร์นิเจอร์
ไม้เก่า/ไม้จริงสีอ่อน: เลือกโต๊ะ ตู้ เก้าอี้ ที่ทำจากไม้เนื้อแข็งสีอ่อน หรือไม้เก่าที่ผ่านการทำสีใหม่ให้ดูเบาลง เช่น โต๊ะกลางไม้เนื้อแข็งสไตล์ Mid-Century, ตู้ลิ้นชักไม้สีพาสเทล หรือ เก้าอี้ไม้ดัด (Thonet Chair) ที่มีเส้นสายเรียบง่าย

โซฟา/อาร์มแชร์ผ้า: เลือกผ้าโทนสีอ่อน เช่น ครีม เบจ เทาอ่อน หรือสีพาสเทลอ่อนๆ อาจมีดีไซน์ย้อนยุคเล็กน้อย เช่น มีขาไม้ หรือพนักพิงแบบกระดุม


2. ของตกแต่งบนโต๊ะ/ชั้นวาง

แจกันและดอกไม้แห้ง/ประดิษฐ์: เลือกแจกันแก้วใส แจกันเซรามิกสีขาว หรือแจกันโลหะทรงเก่าๆ แล้วประดับด้วยดอกไม้แห้งโทนสีอ่อน เช่น ดอกคอตตอน หญ้าหางกระรอก หรือดอกไม้ประดิษฐ์สีวินเทจ

โคมไฟตั้งโต๊ะ/ตั้งพื้น: โคมไฟที่ทำจากทองเหลือง เหล็ก หรือมีโป๊ะแก้วดีไซน์ย้อนยุค จะช่วยเพิ่มบรรยากาศ

กรอบรูปไม้เก่า/โลหะวินเทจ: ใส่รูปภาพขาวดำ รูปวิวเก่าๆ หรือภาพวาดสไตล์ย้อนยุค

หนังสือเก่า/กล่องไม้เก็บของ: นำหนังสือปกแข็งเก่าๆ มาวางซ้อนกัน หรือกล่องไม้สลักลวดลายวินเทจสำหรับเก็บของจุกจิก


3. ของตกแต่งผนัง

กระจกดีไซน์วินเทจ: เลือกกระจกที่มีกรอบไม้แกะสลัก หรือกรอบโลหะทองเหลือง/ทองแดง ที่มีลวดลายอ่อนช้อย

โปสเตอร์/ภาพพิมพ์ย้อนยุค: ภาพโฆษณาเก่าๆ, ภาพแผนที่โลกโบราณ, ภาพพฤกษศาสตร์ หรือภาพพิมพ์สัตว์

นาฬิกาแขวนผนัง: นาฬิกาตัวเรือนไม้ หรือโลหะดีไซน์เก่าๆ แบบโรมัน หรือตัวเลขคลาสสิก


4. ของตกแต่งที่เป็นผ้า

ผ้าม่าน/ผ้าปูโต๊ะ: เลือกผ้าลินิน ผ้าฝ้าย หรือผ้าลูกไม้โปร่งๆ สีขาว ครีม หรือพาสเทล ลายดอกไม้เล็กๆ หรือลายทางจะช่วยให้ดูสบายตา

หมอนอิง: หมอนอิงผ้าฝ้ายลินิน หรือผ้าถักนิตติ้งโทนสีอ่อน อาจมีลวดลายดอกไม้เล็กๆ หรือลายลูกไม้


5. ของตกแต่งจุกจิกสร้างบรรยากาศ

เทียนหอม/เชิงเทียน: เลือกเชิงเทียนทองเหลือง หรือเซรามิกที่ดูเก่าๆ วางคู่กับเทียนหอมกลิ่นละมุน

แก้ว/เซรามิกดีไซน์เก่า: ถ้วย ชาม แก้วน้ำ ที่มีลวดลายดอกไม้เล็กๆ หรือสีอ่อน

กระถางต้นไม้ดินเผา/เซรามิก: ปลูกต้นไม้ฟอกอากาศเล็กๆ น้อยๆ เพื่อเพิ่มความสดชื่น


เคล็ดลับเพิ่มเติมเพื่อให้บ้านดูสบายตา

อย่ามากเกินไป: เลือกของตกแต่งแค่ไม่กี่ชิ้นที่โดดเด่นและมีความหมาย ไม่ต้องประโคมทุกอย่างที่เป็นวินเทจ เพราะจะทำให้บ้านดูรกและทึบ

จัดแสงให้ดี: ใช้แสงธรรมชาติให้มากที่สุด และเลือกโคมไฟที่ให้แสงวอร์มไวท์ (Warm White) เพื่อเพิ่มความอบอุ่น

ความสะอาดและความเป็นระเบียบ: ไม่ว่าสไตล์ไหน ถ้าบ้านสะอาดและจัดวางเป็นระเบียบก็จะดูสบายตาเสมอครับ

การตกแต่งสไตล์วินเทจเก๋ๆ สบายตา คือการสร้างสมดุลระหว่างความเก่าแก่ที่มีเสน่ห์และความเรียบง่ายที่น่าอยู่ ลองเลือกชิ้นที่คุณชอบและคิดว่าเข้ากับไลฟ์สไตล์ของคุณดูนะครับ

8
การทำอาหารไทยสามารถเป็นธุรกิจสร้างรายได้ทำกำไรได้อย่างไรที่แข็งแกร่งและดึงดูดลูกค้าประจำได้

อาหารไทยเป็นที่รู้จักทั่วโลกในด้านรสชาติที่เข้มข้น กลิ่นหอมของเครื่องเทศและรสชาติที่สมดุลอันเป็นเอกลักษณ์ของรสหวาน เปรี้ยว เค็มและเผ็ด หากคุณหลงใหลในการทำอาหาร การเปลี่ยนอาหารไทยให้เป็นธุรกิจเสริมอาจเป็นวิธีที่ยอดเยี่ยมในการสร้างรายได้เสริม ไม่ว่าคุณจะต้องการเริ่มต้นธุรกิจอาหารที่บ้านขนาดเล็ก เปิดสอนทำอาหารออนไลน์ หรือขายผลิตภัณฑ์ไทยที่ทำเองที่บ้าน มีโอกาสมากมายให้คุณได้สำรวจ

การทำอาหารไทยเป็นอาชีพเสริมที่น่าสนใจและสร้างรายได้ได้ดี เพราะอาหารไทยเป็นที่นิยมทั้งในและต่างประเทศ มีหลายช่องทางที่คุณสามารถทำได้ เช่น:
1. ระบุจุดแข็งในการทำอาหารของคุณ
ก่อนเริ่มต้นธุรกิจ ควรพิจารณาว่าคุณเก่งในการทำอาหารไทยประเภทใด ตัวเลือกยอดนิยม ได้แก่:
ผัดไทย – ผัดหมี่จานโปรดของใครหลายๆ คน
ต้มยำกุ้ง – ต้มยำกุ้งรสเปรี้ยวเผ็ด
แกงเขียวหวาน – แกงกะทิเนื้อครีมหอมละมุน
ข้าวเหนียวมะม่วงขนมไทยชื่อดัง
การมุ่งเน้นไปที่เมนูเด่นเพียงไม่กี่รายการสามารถช่วยให้คุณสร้างแบรนด์ที่แข็งแกร่งและดึงดูดลูกค้าประจำได้

2. เลือกโมเดลธุรกิจของคุณ
มีหลายวิธีในการสร้างรายได้จากทักษะการทำอาหารไทยของคุณ:
บริการจัดส่งอาหารถึงบ้าน – ปรุงและส่งอาหารไทยจากครัวของคุณ
แผงขายอาหารริมถนนหรือบูธในตลาด – ขายอาหารจานสดๆ ในพื้นที่ที่พลุกพล่าน
คลาสเรียนทำอาหารออนไลน์ – สอนทำอาหารไทยผ่าน Zoom หรือ YouTube
จำหน่ายน้ำพริกแกงและเครื่องปรุงไทย – ผลิตและจำหน่ายพริกแกง น้ำจิ้ม และของว่างต่างๆ
แต่ละรุ่นมีต้นทุนการลงทุนที่แตกต่างกัน จึงควรเลือกรุ่นที่เหมาะกับงบประมาณและไลฟ์สไตล์ของคุณ

3. เข้าใจข้อกำหนดทางกฎหมาย
ก่อนเปิดธุรกิจของคุณ โปรดตรวจสอบกฎหมายท้องถิ่นและข้อบังคับด้านความปลอดภัยของอาหาร คุณอาจจำเป็นต้อง:
ใบ อนุญาตประกอบ ธุรกิจอาหาร
ครัวที่ได้รับการรับรองหากกฎหมายกำหนด
การบรรจุและการติดฉลากที่ถูกต้องเหมาะสมสำหรับการขายผลิตภัณฑ์อาหาร

4. ใช้การตลาดดิจิทัลเพื่อขยายแบรนด์ของคุณ
ส่งเสริมธุรกิจอาหารไทยของคุณโดยใช้:
โซเชียลมีเดีย – แบ่งปันรูปภาพ สูตรอาหาร และวิดีโอการทำอาหารบน Instagram, Facebook หรือ TikTok
แอปส่งอาหาร – ลงทะเบียนกับแพลตฟอร์มเช่น UberEats หรือ Foodpanda
เว็บไซต์ส่วนตัว – จัดแสดงเมนูของคุณและรับคำสั่งซื้อทางออนไลน์
การมีส่วนร่วมกับลูกค้าผ่านแพลตฟอร์มดิจิทัลสามารถช่วยให้คุณเข้าถึงกลุ่มเป้าหมายได้มากขึ้น

5. เสนอสิ่งที่ไม่ซ้ำใคร
หากต้องการโดดเด่นกว่าคู่แข่ง ให้ลองทำดังนี้:
สร้างสรรค์อาหารฟิวชั่นโดยการผสมผสานรสชาติอาหารไทยกับอาหารอื่นๆ
ให้บริการเตรียมอาหารด้วยอาหารไทยปรุงสำเร็จสำหรับลูกค้าที่ยุ่งวุ่นวาย
จัดเตรียมเมนูอาหารเฉพาะสำหรับผู้มีอาหารพิเศษ เช่น อาหารไทยแบบมังสวิรัติหรือคีโต

6. เริ่มต้นจากสิ่งเล็ก ๆ และค่อยๆ ขยายออกไป
หากคุณเพิ่งเริ่มต้นทำธุรกิจ ให้เริ่มจากธุรกิจเล็กๆ ก่อน เช่น ขายให้กับครอบครัว เพื่อนฝูง และชุมชนท้องถิ่น รวบรวมคำติชมและปรับปรุงผลิตภัณฑ์ของคุณก่อนจะขยายกิจการ

การทำอาหารไทยเป็นธุรกิจเสริมไม่เพียงแต่เป็นวิธีที่ดีในการหารายได้พิเศษเท่านั้น แต่ยังเป็นโอกาสในการแบ่งปันมรดกทางวัฒนธรรมการทำอาหารอันล้ำค่าของประเทศไทยกับผู้อื่นอีกด้วย ด้วยกลยุทธ์ การตลาด และความทุ่มเทที่เหมาะสม คุณสามารถเปลี่ยนความหลงใหลในการทำอาหารของคุณให้กลายเป็นธุรกิจที่ทำกำไรได้

9
หมอออนไลน์: แผลพุพอง (Impetigo/Ecthyma)

แผลพุพอง เป็นการอักเสบของผิวหนังแบบหนึ่งซึ่งเกิดจากการติดเชื้อแบคทีเรีย มักพบในทารกและเด็กวัยเรียนที่มีสุขอนามัยที่ไม่ดี ไม่ค่อยดูแลความสะอาดของตัวเอง หรือมีบาดแผลเล็กน้อยก็ปล่อยปละละเลย โรคนี้ติดต่อกันง่ายภายในบ้าน สถานเลี้ยงเด็ก และโรงเรียน

สาเหตุ

เกิดจากการติดเชื้อแบคทีเรียสแตฟีโลค็อกคัสออเรียส หรือสเตรปโตค็อกคัสกลุ่มเอ สามารถแบ่งออกเป็น 2 ชนิด ได้แก่

1. แผลพุพองชนิดตื้น (impetigo) เป็นการติดเชื้อของหนังกำพร้าชั้นนอกสุด (stratum corneum) เป็นโรคที่พบได้บ่อย โดยเฉพาะอย่างยิ่งในเด็กที่ขาดการรักษาความสะอาด และไม่ใส่ใจดูแลบาดแผลเล็ก ๆ น้อย ๆ เป็นโรคที่ติดต่อได้ง่ายและรวดเร็ว ติดต่อโดยการสัมผัสถูกผู้ที่เป็นโรคนี้อยู่ก่อน หรือสัมผัสถูกเชื้อที่ปนเปื้อนตามสิ่งของเครื่องใช้ที่ผู้ป่วยสัมผัส เชื้อจะเข้าสู่ผิวหนังทางรอยถลอก

2. แผลพุพองชนิดลึก (ecthyma) เป็นการติดเชื้อลึกถึงชั้นหนังแท้ มักพบในเด็กวัยเรียนหรือผู้ใหญ่ที่ไม่รู้จักรักษาความสะอาด ผิวหนังสกปรก ไว้เล็บยาว ไม่ใส่ใจดูแลบาดแผลเล็ก ๆ น้อย ๆ เช่น รอยถลอกรอยขีดข่วน รอยแผลจากยุง แมลงกัด หรืออาจพบเป็นภาวะแทรกซ้อนของโรคผิวหนังอื่น ๆ เช่น หิด เหา อีสุกอีใส เริม งูสวัด ผื่นแพ้ ผื่นคัน เป็นต้น


อาการ

1. แผลพุพองชนิดตื้น แสดงอาการได้ 2 แบบ

แบบที่ 1 เกิดจากการติดเชื้อสเตรปโตค็อกคัสกลุ่มเอ แรกเริ่มเป็นผื่นแดงและคัน ต่อมาจะกลายเป็นตุ่มน้ำใสเล็ก ๆ มีฐานสีแดง ต่อมากลายเป็นตุ่มหนอง ซึ่งจะแตกง่าย กลายเป็นสีแดง และมีน้ำเหลืองเหนียว ๆ ติดเยิ้ม แล้วกลายเป็นสะเก็ดเหลืองกรังติดอยู่ มีลักษณะคล้ายรอยบุหรี่ เมื่อผื่นอันแรกแตก มักจะมีผื่นบริวารขึ้นตามในบริเวณข้างเคียงหลาย ๆ อัน และอาจลุกลามไปยังส่วนอื่น ๆ ของร่างกายได้ง่าย โดยเฉพาะอย่างยิ่งจากการเกา

บางรายอาจมีไข้ต่ำหรือต่อมน้ำเหลืองโตร่วมด้วย มักขึ้นตามใบหน้า ใบหู จมูก ปาก ศีรษะ ก้น และบริเวณนอกร่มผ้า (เช่น มือ ขา หัวเข่า) เมื่อหายแล้วจะไม่เป็นแผลเป็น

ถ้าเป็นพุพองที่ศีรษะ ชาวบ้านเรียกว่า ชันนะตุ

แบบที่ 2 เกิดจากการติดเชื้อสแตฟีโลค็อกคัสออเรียส ซึ่งพบได้น้อยกว่าแบบที่ 1 มีอาการพุขึ้นเป็นตุ่มน้ำพอง ฐานไม่แดง ระยะแรกน้ำภายในตุ่มพองมีลักษณะใส ต่อมาจะเริ่มขุ่น แล้วบางตุ่มจะแตก มีน้ำเหลืองแห้งกรังเป็นสีน้ำตาล ในทารกที่ยังมีภูมิคุ้มกันต่ำ มักมีไข้ และตุ่มน้ำพองมีขนาดใหญ่

2. แผลพุพองชนิดลึก (อาจเกิดจากสแตฟีโลค็อกคัสออเรียส หรือสเตรปโตค็อกคัสกลุ่มเอก็ได้) แรกเริ่มขึ้นเป็นตุ่มแดง ตุ่มน้ำ หรือตุ่มหนองเล็ก ๆ มีฐานสีแดง แล้วโตขึ้นช้า ๆ มีขนาด 1-3 ซม. ต่อมามีสะเก็ดหนาปกคลุม ลักษณะเป็นสะเก็ดแข็งสีคล้ำติดแน่น ข้างใต้เป็นน้ำหนอง ถ้าเป็นนาน ๆ ขอบแผลจะยกนูนออกเป็นสีคล้ำ เมื่อหายแล้วจะกลายเป็นแผลเป็น มักพบที่บริเวณขา


ภาวะแทรกซ้อน

ส่วนใหญ่มักดูแลรักษาให้หายขาด และไม่มีภาวะแทรกซ้อน และส่วนใหญ่ไม่เป็นแผลเป็น ยกเว้นในรายที่เป็นแผลพุพองชนิดลึกที่มักเป็นแผลเป็นเมื่อหายแล้ว

ผู้ที่มีภูมิคุ้มกันต่ำ หรือไม่ได้รับการรักษาตั้งแต่แรกอาจเกิดภาวะแทรกซ้อน เช่น เชื้อลุกลามกลายเป็น เนื้อเยื่อใต้ผิวหนังชั้นลึกอักเสบ (cellulitis) และเชื้ออาจลุกลามเข้ากระแสเลือด ทำให้เป็นโลหิตเป็นพิษได้ ถ้าพบในทารก อาจมีอันตรายร้ายแรงได้

ในรายที่เกิดจากเชื้อบีตาฮีโมไลติกสเตรปโตค็อกคัสกลุ่มเอ อาจทำให้เป็นหน่วยไตอักเสบเฉียบพลันได้ (มีอาการไข้สูง บวมทั้งตัว ปัสสาวะสีแดง)


การวินิจฉัย

แพทย์จะวินิจฉัยจากอาการและสิ่งตรวจพบ ในบางรายแพทย์อาจนำหนองจากรอยโรคไปตรวจหาเชื้อทางห้องปฏิบัติการ


การรักษาโดยแพทย์

แพทย์จะให้การดูแลรักษา ดังนี้

1. อาบน้ำฟอกด้วยสบู่วันละ 2 ครั้ง และใช้น้ำด่างทับทิมชะล้างเอาคราบสะเก็ดออกไป

สำหรับแผลพุพองที่มีสะเก็ดแข็ง ทำการประคบด้วยน้ำอุ่นจัด ๆ และชุ่ม ๆ เพื่อให้สะเก็ดนุ่มและหลุดออกเร็ว

2. ถ้าคันมากให้ยาแก้แพ้ เช่น คลอร์เฟนิรามีน

3. ทาแผลด้วยขี้ผึ้งเตตราไซคลีน หรือครีมเจนตาไมซิน หรือเจนเชียนไวโอเลต หลังอาบน้ำทุกครั้ง

4. ให้ยาปฏิชีวนะ เช่น เพนิซิลลินวี, อีริโทรไมซิน, ไดคล็อกซาซิลลิน, โคอะม็อกซิคลาฟ เป็นต้น เป็นเวลา 5-7 วัน สำหรับเชื้อสแตฟีโลค็อกคัส

สำหรับเชื้อสเตรปโตค็อกคัสจะให้กินยานาน 10 วัน เพื่อป้องกันโรคหน่วยไตอักเสบเฉียบพลันใน

สำหรับแผลพุพองชนิดลึก (ที่มีสะเก็ดแข็งสีคล้ำติดแน่น) จะให้กินยานาน 2-3 สัปดาห์

5. ถ้าไม่ดีขึ้นหรือพบในทารก แพทย์จะนำหนองจากรอยโรคไปทำการย้อมเชื้อหรือเพาะเชื้อ และให้ยาปฏิชีวนะตามชนิดของเชื้อที่ตรวจพบ


การดูแลตนเอง

หากสงสัยเป็นแผลพุพอง ควรปรึกษาแพทย์

เมื่อตรวจพบว่าเป็นแผลพุพอง ควรดูแลตนเอง ดังนี้

    รักษา กินยา และปฏิบัติตามคำแนะนำของแพทย์
    ติดตามรักษากับแพทย์ตามนัด
    ลดการแพร่เชื้อให้ผู้อื่น โดยหยุดไปสถานเลี้ยงเด็กหรือโรงเรียน และพักอยู่ที่บ้านจนกว่าจะไม่แพร่เชื้อ (คือ หลังกินยาปฏิชีวนะได้ 24 ชั่วโมงไปแล้ว), ชะล้างแผลให้สะอาดและใช้ผ้าปิดแผล, หมั่นล้างมือด้วยน้ำกับสบู่, ตัดเล็บให้สั้น, ไม่ใช้เสื้อผ้า ผ้าเช็ดหน้า ผ้าเช็ดตัวร่วมกับผู้อื่น


ควรกลับไปพบแพทย์ก่อนนัด ถ้ามีลักษณะข้อใดข้อหนึ่ง ดังต่อไปนี้

    ดูแลรักษาแล้วอาการไม่ทุเลาใน 2-3 วัน
    มีไข้สูง หนาวสั่น ซึม เบื่ออาหาร เท้าบวม ปัสสาวะเป็นสีแดง หรือมีอาการชัก
    ขาดยา ยาหาย หรือกินยาไม่ได้
    ในรายที่แพทย์ให้ยากลับไปกินต่อที่บ้าน กินยาแล้วสงสัยเกิดผลข้างเคียงจากยา เช่น มีลมพิษ ผื่นคัน ตุ่มพุพอง ตาบวม ปากบวม ปวดท้อง ท้องเดิน คลื่นไส้ อาเจียน จุดแดงจ้ำเขียว หรือมีอาการผิดปกติอื่น ๆ

การป้องกัน

    หมั่นรักษาความสะอาดของผิวหนัง
    หมั่นล้างมือด้วยน้ำกับสบู่
    ตัดเล็บให้สั้น
    หลีกเลี่ยงการสัมผัสถูกแผลพุพองที่ผู้ป่วยเป็น
    ไม่ใช้เสื้อผ้า ผ้าเช็ดหน้า ผ้าเช็ดตัวร่วมกับผู้ป่วย
    หากมีบาดแผลเล็ก ๆ น้อย ๆ หรือโรคผิวหนัง (เช่น หิด เหา เริม งูสวัด อีสุกอีใส) ควรให้การดูแล อย่างจริงจัง

ข้อแนะนำ

แผลพุพองชนิดตื้นที่เกิดจากเชื้อสเตรปโตค็อกคัสกลุ่มเอ ควรกินยาปฏิชีวนะให้ครบระยะเวลาตามคำแนะนำของแพทย์ เพื่อป้องกันหน่วยไตอักเสบเฉียบพลัน

10
“สร้างเงินแสนจากครัวที่บ้าน” สไตล์ครูแมกซ์

จุดเริ่มต้นเพียงแค่ไม่มีใจรักการเป็นลูกน้อง และไม่ชอบการทำงานในองค์กร บวกกับมีความตั้งใจที่ว่า อยากฝึกทักษะการทำอาหารไว้ทำให้คุณพ่อคุณแม่ทานตอนท่านแก่
พร้อมกับคำพูดของคุณแม่ที่ชอบบอกว่า “การขายของมันได้จับเงินทุกวัน” นั่นคือจุดตัดสินใจ

ครูแมกซ์
จุดเริ่มต้นง่ายๆก็เริ่มจากการเรียนรู้จากคุณแม่ของครูแมกซ์เอง ท่านเป็นคนทำอาหารไทยอร่อย และเคยเปิดร้านอาหารมาก่อนตอนครูแมกซ์เด็กๆ
โดยใช้การถาม สังเกตอย่างละเอียด และฝึกชิมรสชาติของอาหารที่แท้จริง (เพราะคุณแม่ไม่เคยชั่งตวงวัดแม่บอกชิมให้เป็นไม่ต้องมาถามสูตร555)
ร่วมกับการเรียนรู้ผ่านสื่อออนไลน์ เช่น ยูทูป ดูทุกวันตลอดระยะเวลา 8-10ปี พร้อมกับการซื้อวัตถุดิบมาลงมือทำจริง ชิมจริง ทำให้คคุณแม่ทานจริง

ครูแมกซ์
จนถึงจุดที่มั่นใจแล้วว่า…จะทำอาหารเพื่อสร้างรายได้เริ่มง่ายๆจากครัวที่บ้าน
จากประสบการณ์ตลอดระยะเวลา15ปี ที่ครูแมกซ์มีรายได้จากอาหาร ไม่ว่าจะเป็นการยืนขายสลัดริมถนนหน้าตึกชาญอิสะ2 เปิดรับออเดอร์ลุกค้าในหมู่บ้าน การพรีออเดอร์ผ่านทางโซเชียลมีเดีย หรือแม้กระทั่งการออกบูทตามห้างดังต่างๆ

ทั้งหมดนี้ผ่านการทำจริง ได้ผลลัพธ์จริงมาทั้งหมดแล้วด้วยตัวครูแมกซ์เองคนเดียว (แบบไม่เลือกการมีลูกน้อง)

จึงมั่นใจมากว่าจากประสบการณ์ทั้งหมดที่ครูแมกซ์สั่งสมมาตลอดจนถึงวันนี้

ไข่เจียว
ครูแมกซ์ได้พิสูจน์แล้วว่า…การสร้างเงินแสนจากครัวที่บ้าน “มันทำได้จริง”
ครูแมกซ์ก็พร้อมที่จะถ่ายทอดทุกสูตรลัด แบไต๋ทุกเคล็ดลับให้คุณแบบหมดเปลือก!!  !!ความตั้งใจนั้นมันก็ได้เกิด”ผลลัพธ์”กับลูกศิษย์ครูแมกซ์เรียบร้อยแล้ว

📌น้องมิ้นท์ นักเรียนคอร์สไพรเวทจับมือทำรอบสด
ลาออกจากงานประจำเพื่อมาเปิดร้านขายอาหาร หลังจากเรียนกับครูแมกซ์ไปเพียงแค่3วัน น้องได้จับเงินบาทแรกจากอาหารทันที!!
โดยเปิดรับพรีออเดอร์จากอาพาร์ทเมนต์ (โดยมีครูแมกซ์เป็นที่ปรึกษาตลอด1เดือนเต็ม) เริ่มจากเมนูง่ายๆที่ครูแมกซ์เลือกให้เป็นเมนูประจำร้าน คือ “เมนูไข่ฟูหมูฉ่ำนัว”

‼️ล่าสุดเพียงแค่ 2เดือน ยอดขายเดือนกุมภาพันธ์ 68
สรุปได้ยอดขาย 60,000 บาท (ทำด้วยตัวคนเดียว)

📌น้องเติ๊ด นักเรียนคอร์สออนไลน์
เป็นพนักงานประจำหัวหน้าแผนกHR อยากหาอาชีพเสริมเพื่อวางแผนลาออกจากงานประจำ หลังจากเรียนคอร์สครูแมกซ์ภายใน 7 วัน น้องได้จับเงินบาทแรกจากอาหารทันที!!
โดยเปิดรับออเดอร์ที่คอนโด เริ่มจากเมนูง่ายๆที่เรียนจากคอร์สสูตรกะเพรา กับ คอร์ส10เมนูไข่ทำง่ายรายได้ปัง เมนูประจำร้าน คือ “เมนูข้าวไข่เจียว ไข่ข้น”
‼️ล่าสุดเพียงแค่ 2เดือน ยอดขายได้มากกว่าเงินเดือนประจำเป็นที่เรียนร้อยแล้ว พร้อมกับยื่นใบลาออก (แต่นายยังไม่อนุมัติ)


สนใจติดต่อสอบถามข้อมูล
ไลน์ ID  :  @krumax
Page FB : https://web.facebook.com/profile.php?id=61569480015186
เว็บไซด์ : https://krumax.net/krumaxcourse/
เบอร์โทร : 081-413-4479


11
ฉนวนกันความร้อนมีกี่ชนิด ควรเลือกอย่างไรดี

บ้านไหนร้อนจัด ความร้อนพุ่งตรงเข้าบ้านแบบเต็ม ๆ ทำเอาค่าไฟแต่ละเดือนพุ่งกระฉูด ลองมารู้จักกับฉนวนกันความร้อน ทางเลือกลดความร้อนที่จะเข้าสู่บ้านกัน ว่าวัสดุชนิดนี้คืออะไรช่วยอะไรได้บ้าง และฉนวนกันความร้อนมีกี่ชนิด แบบไหนที่น่าเลือกมาใช้ที่บ้านบ้าง พร้อมแล้วก็ไปรับความรู้ดี ๆ กันได้เลย!


ฉนวนกันความร้อนคืออะไร?

“วัสดุที่ช่วยลดหรือป้องกันความร้อนเข้าบ้าน”

ฉนวนกันความร้อน คือ วัสดุที่มีคุณสมบัติป้องกันความร้อนจากภายนอกไม่ให้ส่งผ่านจากด้านหนึ่งไปอีกด้านหนึ่ง หรือส่งผ่านไปได้น้อยที่สุดเท่าที่จะทำได้ ส่วนมากใช้สำหรับติดตั้งบริเวณใต้หลังคาบ้าน บนฝ้าเพดาน หลังคาโรงงานอุตสาหกรรม ผนัง กำแพง

แค่ชื่อก็บอกแล้วว่าใช้สำหรับกันความร้อน ดังนั้นคุณสมบัติที่เด่นที่สุดของวัสดุประเภทนี้ก็คือ การลดความร้อนที่จะเข้าสู่ตัวบ้าน โดยลักษณะของฉนวนกันความร้อนนั้นจะมีความหนาแตกต่างกันไปแล้วแต่ชนิด ซึ่งจะช่วยให้บ้านร้อนน้อยลง อยู่อาศัยได้อย่างสบายมากยิ่งขึ้น

ฉนวนกันความร้อนมีกี่ชนิด แบบไหนบ้างที่น่าสนใจ?


1. ฉนวนใยแก้วหรือไฟเบอร์กลาส

“แผ่นหนาสะท้อนความร้อนออก”

ฉนวนแบบใยแก้วเป็นฉนวนกันความร้อนที่ใช้มายาวนาน มีลักษณะเด่นเป็นเส้นใยแผ่นหนาที่ถูกห่อหุ้มด้วยฟอยล์ ซึ่งฟอยล์จะทำหน้าที่สะท้อนความร้อนกลับออกไปนอกตัวบ้าน และถ้าหากยังมีความร้อนหลงเหลืออยู่จะถูกกักเก็บไว้ในตัวเส้นใยข้างใต้

อย่างไรก็ตามปัจจุบันไม่ค่อยจะนิยมใช้กันแล้ว เพราะเวลาเสื่อมสภาพจะมีละอองสารพิษระเหยซึ่งเป็นอันตรายต่อสุขภาพเจ้าของบ้าน รวมถึงถ้าติดไฟ ไฟจะมีลักษณะเป็นแก๊สพิษ นอกจากนี้นกหรือหนูก็ยังชอบมาทำรังมากเพราะเป็นวัสดุที่อุ่นและนุ่ม


2. ฉนวนประเภทโฟมโพลียูริเทน (PU Foam)

“เป็นโฟมฉีดพ่นได้สะดวก”

ฉนวนประเภทนี้มักจะฉีดไว้ที่บริเวณใต้แผ่นหลังคาเมทัลชีท และจะมีฟอยล์ปิดทับชั้นล่างอีกทีหนึ่ง  ซึ่งจะช่วยสะท้อนความร้อนออกนอกตัวบ้านทันที ไม่มากักเก็บไว้ใต้หลังคา หรือจะใช้ฉีดบนหลังคาเลยก็ได้ ถ้าหากว่าหลังคาเดิมไม่สะท้อนความ ซึ่งหลักการทำงานก็เหมือนกันคือสะท้อนความร้อนออกทันทีไม่ผ่านเข้ามาในตัวบ้าน


3. ฉนวนประเภทโฟมโพลีเอทิลีน (PE Foam)

“แผ่นฉนวนกันความร้อนติดตั้งได้เร็ว”

ฉนวนประเภทนี้มีลักษณะเป็นแผ่นเหนียวนุ่ม มีแผ่นฟอยล์บาง ๆ หุ้มเคลือบผิว ทนร้อน น้ำหนักเบา ทนแรงกระแทก ที่สำคัญทนต่อการกัดกร่อน จึงมักถูกนำไปใช้ในโรงงานเพราะมีเนื้อที่บนหลังคาเป็นจำนวนมาก การใช้แผ่นฉนวนกันความร้อนประเภทนี้จึงช่วยให้ติดตั้งได้อย่างรวดเร็วขึ้น


4. ฉนวนเยื่อกระดาษ (Cellulose)

“ปลอดภัยไม่ลามไฟ”

สำหรับฉนวนเยื่อกระดาษ (Cellulose) เป็นวัสดุที่มีส่วนผสมระหว่างเยื่อไม้กับกระดาษและสารเคมีที่ไม่ก่อให้เกิดการลามไฟ ลักษณะการใช้งานคือฉีดพ่นเหมือน (PU Foam) ฉีดที่แผ่นหลังคาข้างบนหรือข้างใต้ก็ได้ อย่างไรก็ตามยังไม่เป็นที่นิยม เพราะคนจะเลือกใช้เป็น PU Foam มากกว่า


วิธีเลือกซื้อฉนวนกันความร้อนตัองดูที่อะไร?

ฉนวนกันความร้อนบนหลังคา

สำหรับหลักเกณฑ์ในการเลือกใช้ฉนวนกันความร้อนมีหลักการเลือกโดยดูจากค่า R และ K โดย ค่า R (Resistivity) = ค่าต้านความร้อน ส่วน ค่า K ( K-value / Conductivity) = ค่าการนำความร้อน เจ้าของบ้านต้องเลือกค่า R ที่สูง และค่า K ที่ต่ำ เท่านั้น เพื่อให้ปกป้องบ้านไม่ให้ความร้อนเข้าตัวบ้านได้หรือเข้าให้น้อยที่สุดนั่นเอง

12
ซ่อมบำรุงอาคาร: วิธีการเช็คน้ำว่ารั่วซึมจากท่อประปาหรือไม่

ไฟฟ้า น้ำประปา เป็นสิ่งจำเป็นสำหรับทุกครัวเรือน และยังเป็นค่าใช้จ่ายหลักๆ ของทุกบ้าน หากเดือนไหนค่าน้ำ ค่าไฟสูง ก็จะต้องรับภาระเพิ่มมากขึ้น หากบางเดือนเราสังเกตว่า ค่าน้ำประปาสูงผิดปกติ นี่อาจเป็นสัญญาณเตือนสิ่งผิดปกติบางอย่างที่เกิดขึ้นในระบบน้ำประปาของบ้านเราอยู่ก็ได้ ซึ่งเป็นสิ่งที่เราจะต้องหมั่นตรวจสอบอยู่เสมอ หากบ้านไหนที่มีปัญหาแบบนี้ ก็ไม่ควรมองข้าม เพราะนี่อาจจะเป็นสัญญาณว่ากำลังเกิดน้ำรั่วซึม หรือท่อประปารั่ว ที่ไหนสักแห่ง ทำให้ต้องเสียเงินเปล่าๆ

โดยที่ไม่ได้ใช้น้ำ แถมยังอาจทำให้บ้านเกิดน้ำท่วมขัง ส่งผลให้เกิดความชื้นและเชื้อรา ซึ่งเป็นปัจจัยที่ทำให้บ้านผุพังได้เร็วขึ้น และอาจส่งผลไปถึงปัญหาของคนในครอบครัวได้ ซึ่งต้องบอกก่อนว่า ท่อประปาที่วางอยู่ใต้ดินยากต่อการตรวจสอบและพบเห็น หากเกิดการรั่วไหลขึ้น สามารถสังเกตได้จาก อาการน้ำจะไหลอ่อนลงจากเดิม หรือพื้นที่ที่มีท่อแตก-รั่ว จะทรุดต่ำกว่าที่อื่น เนื่องจากดินหรือทรายใต้ดินเคลื่อนตัว หรือสังเกตดูว่า บริเวณนั้นๆอาจมีน้ำเปียกแฉะตลอดเวลา มีตะไคร่ขึ้น หรือมีหญ้าขึ้นมากกว่าที่อื่นๆ นั่นเป็นสัญญาณของการเกิดน้ำรั่วซึม ซึ่งวันนี้เราจะมาแนะนำวิธีการเช็คน้ำว่ารั่วซึมจากท่อประปาหรือไม่
 
ก่อนอื่น เราต้องคอยสังเกตค่าน้ำของบ้านเราก่อน หากพบว่าค่าน้ำสูงผิดปกติกว่าทุกเดือน โดยที่พฤติกรรมการใช้น้ำของสมาชิกภายในบ้านไม่ได้เปลี่ยนแปลงไป ให้สันนิษฐานก่อนว่า ท่อประปาภายในบ้านเกิดการรั่วซึมหรือแตกอย่างแน่นอน อีกข้อแนะนำที่จะให้ผู้ใช้น้ำสามารถตรวจสอบการแตกรั่วของระบบประปาในอาคารได้โดยสะดวก

และสามารถเห็นได้ง่ายยิ่งขึ้นหากมีการรั่วไหล ก็คือ การวางท่อประปาและอุปกรณ์ประปาต่าง ๆ ไว้เหนือพื้นดินเพื่อเป็นการง่ายต่อการตรวจสอบ และที่สำคัญทุกบ้านควรมีแบบแปลนการวางท่อน้ำภายในบ้านของเราว่ามีจุดต่อไปในที่ใดบ้างหรือมีจุดต่อวาล์วน้ำย่อยอยู่ที่จุดใดบ้าง แปลนนี้จะมีความสำคัญอย่างมากเวลาหาจุดรั่วหรือในการซ่อมบำรุงประปาของบ้านเรานั่นเอง 

สำหรับวิธีการเช็กน้ำรั่วซึมจากท่อประปา ก่อนอื่น ปิดก๊อกน้ำทั้งหมดและดูที่มิเตอร์หรือมาตรวัดน้ำ หากตัวเลขที่หน้าปัดมิเตอร์น้ำยังคงเดินอยู่ แปลว่า มีน้ำรั่วซึมในบ้าน ตรวจดูก๊อกน้ำ ฝักบัว เครื่องซักผ้า และเครื่องใช้ที่ต่อท่อกับน้ำ เพราะน้ำรั่วนั้นอาจเกิดจากส่วนนี้ได้ ส่วนวิธีแก้ไขเบื้องต้น ถ้ารั่วที่ก๊อกน้ำหรือฝักบัวให้เปลี่ยนก๊อกน้ำหรือฝักบัว แต่ถ้าเป็นเครื่องซักผ้าและเครื่องใช้อื่น ๆ ให้เรียกช่างเฉพาะทางมาซ่อมแซม


สำหรับชักโครกให้ตรวจดูโดยใส่สีย้อมผ้าลงในถังพักน้ำ ถ้าพบสีไหลลงในชักโครก แสดงว่า มีน้ำรั่วเกิดขึ้น ถ้าตรวจสอบดูแล้วไม่พบจุดรั่ว สันนิษฐานได้ว่า สาเหตุที่มีน้ำประปารั่วในบ้านนั้นน่าจะเกิดจากท่อประปาร้าวหรือแตก และให้เช็กหาจุดรั่วที่ท่อประปา ให้เช็กท่อประปารั่วในบ้านทีละจุด เพื่อความมั่นใจว่าจะพบจุดรั่วทั้งหมด
โดยใช้วิธีปิดวาล์วเช็กทีละส่วนของบ้าน โดยเริ่มจากการปิดวาล์วจ่ายน้ำที่ชั้นบนก่อน แล้วค่อยสลับไปเปิดวาล์วจ่ายน้ำชั้นล่าง ถ้าแต่ละชั้นมีวาล์วจ่ายน้ำหลายจุด ให้ปิดทั้งหมดและเปิดวาล์วทีละจุด ซึ่งวิธีนี้จะช่วยให้ระบุหาจุดรั่วได้ง่ายขึ้น และเมื่อเปิดเช็กทีละวาล์ว ให้ดูที่มิเตอร์ว่า ตัวเลขวัดปริมาณการใช้น้ำยังคงเดินอยู่หรือไม่ ถ้ายังเดินอยู่ ให้เดินหาจุดรั่วของท่อประปา เมื่อพบจุดรั่วซึมก็ควรเรียกช่างที่มีความเชี่ยวชาญเข้ามาแก้ไขทันที

หากพบปัญหาและต้องการที่แก้ไข สามารถติดต่อเรามีบริการ ติดตั้งและบำรุงรักษาระบบประปา ออกแบบท่อน้ำในอาคาร ติดตั้งสุขภัณฑ์ในห้องน้ำในอาคาร และระบบจัดการแบบครบวงจร โดยเราจะทำการประเมินวิเคราะห์และออกแบบวางแผนบำรุงรักษา ไม่เพียงแผนการซ่อมแซมตามปกติที่ต้องเข้าดูแลอย่างรวดเร็วเท่านั้น การวางแผนซ่อมบำรุงเชิงป้องกันที่ระเอียดรอบคอบ

เพื่อให้ผลการบริหารจัดการของอาคารบ้านเรือนที่มีประสิทธิภาพ และสามารถใช้น้ำได้อย่างไม่สะดุด เพราะน้ำ เป็นสิ่งที่จำเป็นในการใช้ชีวิตประจำวัน เราเล็งเห็นถึงความสะดวกสบายของลูกค้ามาเป็นอันดับแรก เพื่อให้ลูกค้าได้ใช้ชีวิตประจำวันได้อย่างมีความสุข และยังทำให้บ้านของคุณน่าอยู่มากยิ่งขึ้น

13
บริหารจัดการอาคาร: เราจะแก้ปัญหากินอับชื้นจากแอร์ได้อย่างไร

เครื่องปรับอากาศ ปัจจุบันนั้นมีมากมายและหลากหลายชนิด จนบางครั้งอาจจะเลือกไม่หมด และที่สำคัญควรเลือกเครื่องปรับอากาศอย่างไรให้เข้ากับบ้านหรือห้องภายในที่อยู่อาศัยที่เราต้องการด้วย ซึ่งเป็นเครื่องใช้ไฟฟ้าชนิดหนึ่ง ที่ใช้อำนวยความสะดวกในการปรับอุณหภูมิให้ห้องที่ต้องการให้เย็นลง แน่นอนว่า ประเทศของเรามีอากาสที่ร้อนมาก จึงไม่แปลกใจที่เครื่องปรับอากาศมีความจำเป้นในการดำเนินชีวิตของใครหลายคน

แต่ก็ต้องแลกกับค่าใช้จ่ายที่ต้องสูงมากขึ้น แต่หากเราติดเครื่องปรับอากาศเพื่ออำนวยความสะดวกก็ต้องมั่นใจว่า เครื่องปรับอากาศของเรานั้น จะมีอายุการใช้งานที่นานและมีการใช้งานที่มีประสิทธิภาพ ซึ่งหลายบ้านต้องติดตั้งเครื่องปรับอากาศภายในบ้านเครื่องใหม่และอาจจะสงสัยว่า ช่วงที่ช่างที่มาติดตั้งเครื่องปรับอากาศที่บ้านของเรานั้น ทำงานเรียบร้อยหรือไม่หรือติดตั้งเครื่องปรับอากาศในตำแหน่งที่ถูกต้องหรือเปล่า

เพราะปัจจัยที่กล่าวมานั้น ส่งผลต่อการทำงานของเครื่องปรับอากาศภายในบ้านของเรา เพราะถ้าหากเราจะต้องเสียงเงินเพื่อติดตั้งเครื่องปรับอากาศใหม่แล้วก็ต้องมั่นใจว่าเครื่องปรับอากาศที่เราติดตั้งไปแล้ว จะไม่เกิดปัญหาในภายหลัง นอกจากนี้ การใช้งานเครื่องปรับอากาศ เมื่อใช้งานไปนานๆอาจจะส่งกลิ่นอับชื้น หรือถ้าหากเปิดในช่วงหน้าฝน ก็จะยิ่งเกิดกลิ่นอับชื้นได้ง่าย ซึ่งวันนี้เราจะมาแนะนำเคล็ดลับการกำจัดกลิ่นอับชื้นที่เกิดจากแอร์ที่เราใช้งาน เพื่อเป็นแนวทางให้กับคนที่ประสบปัญหาได้แก้ไขได้อย่างถูกต้อง

 
การเปิดเครื่องปรับอากาศ ในเรื่องของควมาชื้นหรือกลิ่นอับ ก็เป็นอีกหนึ่งปัญหาที่หลีกเลี่ยงไม่ได้ ซึ่งอันที่จริงก็ไม่น่าจะมีปัญหาอะไร แต่ความซับซ้อนระหว่างปฏิกิริยาของความอบอ้าว ความเย็น ความชื้น อาจจะทำให้เกิดปัญหาขึ้นกับห้องที่ปรับอากาศได้เหมือนกัน ซึ่งนั่นก็คือ ปัญหาความชื้นสะสมในห้องหลังปิดเครื่องปรับอากาศ เนื่องจากถ้าหากเราเปิดเครื่องปรับอากาศ แล้วเราปิดเครื่องปรับอากาศในช่วงที่อากาศยังมีความชื้นอยู่ภายในอากาศมาก แล้วเราเปิดประตูหน้าต่างให้อากาศภายนอกเข้ามาภายในห้องได้ทันที ห้องจะเกิดอาการชื้นขึ้นทันทีเช่นกัน
 
ดังนั้น เราควรใช้งานเครื่องปรับอากาศให้ถูกต้อง ซึ่งปัญหาความชื้นหรือกลิ่นอับ เป็นปัญหาที่เราหลีกเลี่ยงได้ สำหรับเคล็ดลับการแก้กลิ่นอับชื้นในเครื่องปรับอากาศของเรานั้น สามารถทำได้ด้วยการตรวจเช็คแผ่นกรองฝุ่นในเครื่องปรับอากาศเป็นประจำทุกเดือน โดยการแกะแผ่นกรองอากาศออกมาเพื่อทำความสะอาด และนำไปตากแดดหรือผึ่งให้แห้ง

จากนั้นทำการเปิดปุ่ม Fanmode หรือ Drymode ทิ้งไว้ประมาณ 1-2 ชั่วโมง เพื่อให้พัดลมได้ปัดเป่าความชื้นออกไปให้หมด หรือถ้าหากไม่มีการเปิดใช้เครื่องปรับอากาศ ก็ควรเปิดหน้าต่างหรือประตู เพื่อให้อากาศได้ถ่ายเท ปัญหากลิ่นอับชื้นก็จะลดลงและหายไปในที่สุด พยายามหลีกเลี่ยงการสูบบุหรี่ หรือการปรุงอาหารในขณะที่เปิดเครื่องปรับอากาศ

เนื่องจากจะทำให้เกิดการสะสมของเชื้อแบคทีเรียในเครื่องปรับอากาศ และทำให้เครื่องปรับอากาศเกิดการอุดตันและมีกลิ่นเหม็นอับชื้นได้ง่ายนั่นเอง ทั้งนี้ เราสามารถป้องกันไม่ให้แอร์มีกลิ่นเหม็นอับ โดยการหมั่นดูแลและล้างแอร์ให้สะอาดอยู่เสมอก็ถือเป็นการป้องกันไม่ให้แอร์ส่งกลิ่นเหม็นได้ โดยบริเวณแผงขดท่อคอยล์เย็นควรล้างทำความสะอาดเป็นประจำทุกปี ส่วนแผงกรอกฝุ่นก็ควรจะทำความสะอาดทุกเดือน

เพราะเจ้าแผงกรองฝุ่นหรือฟิลเตอร์นี้ เป็นชิ้นส่วนที่มีฝุ่นเกาะอยู่มากที่สุด โดยเฉพาะอย่างยิ่งกับแอร์ที่ติดตั้งไว้ในพื้นที่ที่มีฝุ่นเยอะ ยิ่งควรถอดล้างให้ได้ทุกวัน หรืออย่างน้อย ๆ ก็ทุกสัปดาห์ ส่วนระยะเวลาในการล้างทำความสะอาดชุดคอยล์ร้อน ควรล้างในทุก ๆ  6 เดือน หรือ 1 ปี เพื่อป้องกันไม่ให้เกิดกลิ่นและช่วยบำรุงรักษาแอร์ของเราไปในตัวด้วย

 
อย่างไรก็ตาม ทางเราอยากให้ทุกคนได้เลือกเครื่องปรับอากาศที่มีประสิทธิภาพในการใช้งานที่เหมาะสมกับคุณ ทางเรามีบริการดูแลระบบเครื่องปรับอากาศภายในอาคาร ที่มีคนจำนวนมาก เพื่อที่จะได้สามารถใช้งานเครื่องปรับอากาศได้อย่างมีประสิทธิภาพ เพราะเราถือว่า ระบบปรับอากาศและหมุนเวียนอากาศเป็นสิ่งจำเป็นมาก เพราะผู้คนส่วนใหญ่ในปัจจุบันมักจะใช้ชีวิตในภายในอาคาร นั่นถือว่าเป็นสิ่งสำคัญ เพราะถ้าเราได้สูดอากาศที่บริสุทธิ์และสะอาดเข้าไป ก็จะทำให้เรามีสุขภาพที่ดี สามารถใช้ชีวิตประจำวันได้สดชื่น สบายมากยิ่งขึ้น

14
ตรวจอาการเบื้องต้นด้วยตนเอง: ท่อปัสสาวะตีบ (Urethral stricture)

ท่อปัสสาวะมีภาวะตีบแคบกว่าปกติ ซึ่งเป็นผลจากการเกิดรอยแผลเป็นจากการบาดเจ็บหรือการอักเสบของท่อปัสสาวะ ทำให้ถ่ายปัสสาวะลำบาก มีปัสสาวะคั่งในกระเพาะปัสสาวะ และเกิดภาวะแทรกซ้อนต่างๆ ตามมา

โรคนี้พบมากในผู้ชาย พบได้น้อยในผู้หญิง เนื่องจากท่อปัสสาวะของผู้ชายมีความยาวมากกว่าผู้หญิงมาก จึงมีโอกาสได้รับอันตรายหรือเกิดความผิดปกติได้มากกว่า ทำให้เกิดการตีบของท่อปัสสาวะได้ตลอด อาจเกิดตรงส่วนต้น ส่วนกลางหรือส่วนปลายของท่อปัสสาวะก็ได้ 


สาเหตุ

ส่วนใหญ่เกิดจากการได้รับบาดเจ็บต่อท่อปัสสาวะ การใส่สายสวนปัสสาวะหรือการสอดใส่เครื่องส่องตรวจทางเดินปัสสาวะ การผ่าตัดทางเดินปัสสาวะ ต่อมลูกหมาก หรือการฉายรังสีต่อมลูกหมาก 

นอกจากนี้อาจเกิดจากการติดเชื้อ (เช่น หนองใน หนองในเทียม ต่อมลูกหมากอักเสบ ทำให้ท่อปัสสาวะมีการอักเสบ และกลายเป็นแผลเป็นจนทำให้ท่อปัสสาวะตีบ) ต่อมลูกหมากโต มะเร็งต่อมลูกหมากหรือมะเร็งท่อปัสสาวะ

บางรายอาจมีความผิดปกติมาแต่กำเนิด หรือไม่ทราบสาเหตุที่ชัดเจน


อาการ

มีอาการปัสสาวะแสบขัด ปัสสาวะออกลำบากต้องใช้แรงเบ่ง ปัสสาวะบ่อย แต่ออกทีละน้อย ไม่พุ่ง หรือออกเป็นหยด มีความรู้สึกถ่ายไม่สุดหรืออยากถ่ายอยู่เรื่อย ๆ เวลามีความรู้สึกปวดปัสสาวะต้องรีบเข้าห้องน้ำทันที อาจมีอาการกลั้นปัสสาวะไม่ได้หรือปัสสาวะเล็ด บางรายอาจพบมีเลือดในปัสสาวะ

ในรายที่เป็นมากอาจมีอาการถ่ายไม่ออกเลย และมีอาการปวดท้องน้อย เนื่องจากมีปัสสาวะคั่งอยู่ในกระเพาะปัสสาวะ

ในรายที่มีทางเดินปัสสาวะอักเสบแทรกซ้อน จะมีอาการขัดเบา ถ่ายปัสสาวะกะปริดกะปรอย ปัสสาวะขุ่น ปวดท้อง ปวดเอว หรือมีไข้หนาวสั่น


ภาวะแทรกซ้อน

หากปล่อยไว้ ไม่ได้รับการรักษา อาจเกิดภาวะแทรกซ้อน อาทิ

    ท่อปัสสาวะเกิดการตีบตัน ทำให้ถ่ายปัสสาวะไม่ออกเลย มีปัสสาวะคั่งเต็มในกระเพาะปัสสาวะ มีอาการปวดท้องน้อย และคลำได้ก้อนตึงที่ตรงกลางท้องน้อย ซึ่งจำเป็นต้องไปรับการรักษาที่โรงพยาบาลอย่างเร่งด่วน
    กลั้นปัสสาวะไม่ได้ มีอาการปัสสาวะเล็ด
    มีความผิดปกติเกี่ยวกับการหลั่งอสุจิ เช่น มีอาการปวดเวลาหลั่งอสุจิ หรือหลั่งอสุจิไม่ได้หรือได้น้อย (ทำให้ผู้ชายอาจเป็นหมัน)
    องตชาตไม่แข็งตัว (erectile dysfunction)
    การติดเชื้อ เช่น ต่อมลูกหมากอักเสบ อัณฑะอักเสบ  ฝีที่ท่อปัสสาวะ
    ทางเดินปัสสาวะอักเสบ (กระเพาะปัสสาวะอักเสบ กรวยไตอักเสบ) กำเริบซ้ำซาก
    นิ่วกระเพาะปัสสาวะ
    ไตบวมน้ำ (hydronephrosis)   
    ถ้าปล่อยไว้นาน ๆ เกิดภาวะไตวายเรื้อรัง


การวินิจฉัย

แพทย์จะวินิจฉัยเบื้องต้นจากอาการ ประวัติการเจ็บป่วยและการตรวจร่างกาย

การตรวจร่างกายมักตรวจไม่พบสิ่งผิดปกติชัดเจน

บางรายอาจคลำได้ก้อนตึง ๆ (ของกระเพาะปัสสาวะที่มีปัสสาวะคั่ง) หรือมีอาการกดเจ็บเล็กน้อยที่บริเวณตรงกลางท้องน้อย หรืออาจตรวจพบองคชาตบวม หรือรอยตีบ (ในรายที่มีท่อปัสสาวะตีบตรงส่วนปลายชัดเจน) 

แพทย์จะทำการวินิจฉัยให้แน่ชัดโดยการตรวจปัสสาวะ (ตรวจดูการติดเชื้อของทางเดินปัสสาวะ หรือโรคหนองใน หนองในเทียม) เอกซเรย์ อัลตราซาวนด์ ถ้าจำเป็นอาจทำการตรวจอื่นๆ เพิ่มเติม เช่น การใช้กล้องส่องตรวจท่อปัสสาวะและกระเพาะปัสสาวะ (cystourethroscopy) การถ่ายภาพรังสีท่อปัสสาวะและกระเพาะปัสสาวะด้วยการฉีดสารทึบรังสี (cystourethrogram) การถ่ายภาพด้วยคลื่นแม่เหล็กไฟฟ้า หรือเอกซเรย์คอมพิวเตอร์ การตรวจวินิจฉัยโรคต่อมลูกหมากโตหรือมะเร็งต่อมลูกหมากในผู้ชายสูงอายุ เป็นต้น


การรักษาโดยแพทย์

แพทย์จะทำการแก้ไขท่อปัสสาวะตีบด้วยการถ่างขยายท่อปัสสาวะ และการผ่าตัด โดยพิจารณาจากตำแหน่ง ความยาว และความรุนแรงของของการตีบตัน

ในรายที่ท่อปัสสาวะตีบไม่รุนแรง และมีรอยตีบยาวน้อยกว่า 1 ซม. แพทย์อาจทำการถ่างขยายท่อปัสสาวะ โดยใช้สายสวน บัลลูน หรืออุปกรณ์อื่น ๆ ซึ่งอาจต้องทำซ้ำหลายครั้ง ถ้าไม่ได้ผล ก็จะต้องทำการผ่าตัดแก้ไข

สำหรับการผ่าตัด วิธีที่นิยม คือ การผ่าตัดโดยใช้กล้องส่องผ่านทางท่อปัสสาวะ (endoscopic urethrotomy) เข้าไปตัดเอาส่วนที่ตีบตันออกไป วิธีนี้มีผลข้างเคียงน้อย แต่มีโอกาสเกิดการตีบตันของท่อปัสสาวะได้ใหม่   

วิธีที่ได้ผลดี คือ การผ่าตัดซ่อมแซมท่อปัสสาวะแบบเปิด (open urethroplasty surgery) ซึ่งมีอยู่หลายวิธี เหมาะสำหรับกรณีที่มีการตีบตันที่รุนแรง การรักษาโดยวิธีอื่นไม่ได้ผล หรือท่อปัสสาวะมีการตีบตันซ้ำซาก วิธีนี้มีโอกาสน้อยมากที่ท่อปัสสาวะจะกลับมาตีบตันใหม่

บางกรณีแพทย์อาจทำการรักษาด้วยการใส่หลอดลวดตาข่าย (stent) ถ่างขยายค้างใว้ในท่อปัสสาวะ วิธีนี้ทำได้ง่ายแต่อาจมีผลข้างเคียง เช่น การติดเชื้อ และมีโอกาสที่ท่อปัสสาวะกลับมาตีบตันซ้ำ ซึ่งทำการผ่าตัดแก้ไขได้ยากขึ้น แพทย์อาจเลือกใช้วิธีนี้ในรายที่มีการตีบตันที่รุนแรงและผู้ป่วยไม่ต้องการผ่าตัด

ผลการรักษา การรักษาด้วยการผ่าตัดมักจะได้ผลดี ช่วยให้หายเป็นปกติ มีโอกาสกำเริบใหม่น้อยมาก แต่บางรายอาจมีผลข้างเคียงจากการผ่าต้ด (เช่น เลือดออก ติดเชื้อ) บางรายอาจมีผลข้างเคียงหลังผ่าตัดในระยะยาว เช่น กลั้นปัสสาวะไม่ได้ องคชาตไม่แข็งตัว เป็นต้น               


การดูแลตนเอง

หากสงสัย เช่น มีอาการถ่ายปัสสาวะลำบาก ออกทีละน้อย ออกเป็นหยด หรือถ่ายไม่ออกเลย ควรปรึกษาแพทย์

เมื่อตรวจพบว่าเป็นท่อปัสสาวะตีบ ควรดูแลตนเอง ดังนี้

    รักษา กินยา และปฏิบัติตามคำแนะนำของแพทย์
    ติดตามรักษากับแพทย์ตามนัด


ควรกลับไปพบแพทย์ก่อนนัด ถ้ามีลักษณะข้อใดข้อหนึ่ง ดังต่อไปนี้

    ดูแลรักษาแล้วอาการไม่ทุเลา
    มีอาการขัดเบา ปวดท้องน้อย ไข้ หนาวสั่น ปวดสีข้าง ปัสสาวะขุ่น หรือปัสสาวะไม่ออก
    ในรายที่แพทย์ให้ยากลับไปกินต่อที่บ้าน ถ้ากินยาแล้วสงสัยเกิดผลข้างเคียงจากยา เช่น มีลมพิษ ผื่นคัน ตุ่มพุพอง ตาบวม ปากบวม ปวดท้อง ท้องเดิน คลื่นไส้ อาเจียน จุดแดงจ้ำเขียว หรือมีอาการผิดปกติอื่น ๆ


การป้องกัน

เนื่องจากโรคนี้เกิดจากสาเหตุที่หลากหลาย ซึ่งส่วนใหญ่ป้องกันได้ยาก เช่น การบาดเจ็บ ผลแทรกซ้อนจากการผ่าตัด

ส่วนน้อยเกิดจากสาเหตุที่ป้องกันได้ ที่สำคัญ ได้แก่

    ป้องกันไม่ให้เป็นโรคหนองในและหนองในเทียม ด้วยการมีเพศสัมพันธ์ที่ปลอดภัย (คือการใช้ถุงยางอนามัย) และหากเป็นโรคเหล่านี้ ควรรักษาให้หายโดยเร็ว อย่าปล่อยให้เรื้อรัง
    ถ้าจำเป็นต้องใส่สายสวนปัสสาวะ ควรเลือกใช้สายสวนขนาดเล็กที่พอเหมาะกับผู้ป่วย และควรคาสายสวนไว้เท่าที่จำเป็น อย่าให้นานเกินจำเป็น

ข้อแนะนำ

ผู้ที่ได้รับการตรวจรักษาโรคทางเดินปัสสาวะ เช่น การใส่สายสวน การใช้เครื่องส่องตรวจ การผ่าตัด หรือการฉายรังสี ที่บริเวณท่อปัสสาวะ หากพบว่ามีอาการปัสสาวะลำบาก ออกทีละน้อย ออกเป็นหยด หรือถ่ายไม่ออกเลย ควรสงสัยว่าอาจมีภาวะท่อปัสสาวะตีบแทรกซ้อน ควรรีบกลับไปพบแพทย์โดยเร็ว

15
9 ที่เที่ยวไทย ใกล้ MRT รถไฟฟ้า สายสีชมพู งบน้อยก็ไปได้!

หลังจาก รถไฟฟ้ามหานคร สายสีชมพู หรือ MRT สายสีชมพู ได้มีการเพิ่ม สถานีอิมแพ็ค เมืองทองธานี - สถานีทะเลสาบเมืองทองธานี จึงทำให้การเดินทางไปไหนมาไหนนั้นง่าย สะดวก และประหยัดขึ้น วันนี้พวกเราเลยมามัดรวม 9 ที่เที่ยวใกล้ รถไฟฟ้าสายสีชมพู งบน้อยก็ไปได้! อัปเดต 2025 มาฝากกันค่ะ ใครที่เป็นสายประหยัด ชอบเที่ยวโดยใช้รถไฟฟ้า บอกได้เลยว่าห้ามพลาด เพราะไม่เพียงแต่ประหยัดงบ แต่ยังเดินทางสะดวกอีกด้วย


1. สถานีรามอินทรา 3 - สวนสัตว์เพื่อนเดรัจฉาน

      นอกจากการไปวัด ทำบุญ ปล่อยนก ปล่อยปลาแล้ว การให้อาหารสัตว์ ที่ สวนสัตว์เพื่อนเดรัจฉาน ก็ถือว่าเป็นการทำบุญอย่างหนึ่ง เพราะที่นี่คือ แหล่งรวมสัตว์ที่โดนทิ้ง ทั้งที่ทิ้งแบบชั่วคราวและทิ้งแบบถาวร ที่นี่จึงเป็นอีกสถานที่หนึ่ง ที่นอกจากจะไปชมนกชมไม้ ถ่ายรูปสัตว์หลากหลายสายพันธุ์แล้ว ยังสามารถให้อาหารสัตว์ แล้วก็ยังมีรูปสวยๆ ไปลงโซเชียลอีกด้วย บอกเลยว่า ได้ทั้งบุญ ได้ทั้งรูป!

    ✨ ที่อยู่ : 64 ถนนรามอินทรา แขวงอนุสาวรีย์ เขตบางเขน กรุงเทพฯ
    ⏰ เปิดให้เข้าชม :  10.00-18.00 น (หยุดวันจันทร์)


2.  สถานีนพรัตน์ - สยามอะเมซิ่งพาร์ค

สยามอะเมซิ่งพาร์ค หรือที่เราเคยรู้จักกันในชื่อของ สวนสยาม ที่นี่มีเครื่องเล่นมากมายทั้งโซน สวนน้ำ และ เครื่องเล่น ที่นี่มีตั้งแต่สระว่ายน้ำรูปแบบต่างๆ ไปจนถึงรถไฟเหาะ เพื่อนๆ สามารถเลือกเล่นได้ตามใจชอบ รับรองว่า มาที่นี่ เสียว สนุก สุดเหวี่ยง แน่นอน!

      ใครที่อยาก ปลดปล่อยความเครียด หรือบางครั้งการทำงาน ก็ทำให้เราลืม Inner Child หรือ เด็กน้อยที่อยู่ในตัวของเราทุกคนไปบ้าง การไป สวนสนุก แบบนี้ ก็ถือเป็นกิจกรรมอีกอย่างหนึ่ง ที่ทำให้เราได้ย้อนวัย กลับไปเป็นเด็กอีกครั้ง

    ✨ ที่อยู่ : 203 ถนนสวนสยาม แขวงคันนายาว เขตคันนายาว กรุงเทพฯ
    📌 พิกัด : https://maps.app.goo.gl/vwJbSbBHgjZu1Try9
    ⏰ เปิดให้เข้าชม : 10.00-18.00 น.


3. สถานีศูนย์ราชการนนทบุรี - อุทยานมกุฏรมยสราญ

รถไฟฟ้าสายสีชมพู สถานีศูนย์ราชการนนทบุรี อุทยานมกุฏรมยสราญ

อุทยานมกุฏรมยสราญ สวนสาธารณะในกรุงเทพฯ ที่เหมาะแก่การมาพักผ่อนหย่อนใจ เดินเล่น ออกกำลังกาย หรือพาลูกเด็กเล็กแดงมาเล่นเครื่องเล่นต่างๆ เพราะที่นี่มีสิ่งอำนวยความสะดวกที่หลากหลาย ไม่ว่าจะเป็นสนามเด็กเล่น ลู่วิ่ง พื้นที่ที่สามารถออกกำลังกายได้ หรือปิกนิก ถ่ายรูปก็เหมาะมากๆ

    ✨ ที่อยู่ : ถนนรัตนาธิเบศร์ ตำบลบางกะสอ อำเภอเมืองนนทบุรี จังหวัดนนทบุรี
    ⏰ เปิดให้เข้าชม : 04.00-21.00 น.
    🔗เว็บไซต์ : -


4. สถานีคู้บอน - ซาฟารีเวิลด์

ซาฟารีเวิลด์ เป็นสวนสัตว์เปิดที่มี 2 โซนคือ สวนสัตว์เปิด Safari Park และ Marine Park ภายในมีการแสดงของสัตว์ต่างๆ เช่น โชว์จากเหล่าปลาโลมา หรือสิงโตทะเล และสัตว์อื่นๆ อีกมากมายหลากหลายชนิด จะไปคนเดียว ไปกับเพื่อน หรือพาครอบครัวไปทำกิจกรรมร่วมกันก็ถือว่า เป็นอีกหนึ่งสถานที่ชิลๆ ได้ในวันหยุด

    🌟 ดูเพิ่มเติมที่ เที่ยวกรุงเทพ One Day Trip สวนสัตว์ ซาฟารีเวิลด์ Safari World ให้อาหารยีราฟ
    ✨ ที่อยู่ : 99 ถนนปัญญาอินทรา แขวงสามวาตะวันตก เขตคลองสามวา กรุงเทพฯ
    ⏰ เปิดให้เข้าชม :
    Safari Park : วันอังคาร - ศุกร์ เวลา 09.00-16.30 น. / วันเสาร์ - อาทิตย์ เวลา 09.00-17.00 น.
    Marine Park : วันอังคาร - ศุกร์ เวลา 09.00-17.00 น. / วันเสาร์ – อาทิตย์ เวลา 09.00-17.30 น.
    🪙 ค่าเข้าชม :
    นักท่องเที่ยวไทย
    บัตรชุด (Safari Park & Marine Park): ผู้ใหญ่ 800 บาท, เด็ก (สูง 100-140 ซม.) 700 บาท
    บัตร Marine Park : ผู้ใหญ่ 650 บาท, เด็ก (สูง 100-140 ซม.) 550 บาท
    บัตร Safari Park : ผู้ใหญ่ 450 บาท, เด็ก (สูง 100-140 ซม.) 350 บาท, เด็กสูงไม่เกิน 100 ซม. เข้าฟรี!

    นักท่องเที่ยวชาวต่างชาติ
    บัตรชุด (Safari Park & Marine Park) : ผู้ใหญ่ 1,500 บาท, เด็ก (สูง 100-140 ซม.) 1,400 บาท
    บัตร Marine Park : ผู้ใหญ่ 1,300 บาท, เด็ก (สูง 100-140 ซม.) 1,100 บาท
    บัตร Safari Park : ผู้ใหญ่ 1,000 บาท, เด็ก (สูง 100-140 ซม.) 900 บาท

‼️หมายเหตุ : ราคาบัตรเข้าชมอาจมีการเปลี่ยนแปลงได้ แนะนำให้ตรวจสอบข้อมูลล่าสุดจากเว็บไซต์ทางการของซาฟารีเวิลด์ก่อนนะคะ


5. สถานีศูนย์ราชการนนทบุรี - Esplanade งามวงศ์วาน-แคราย

Esplanade งามวงศ์วาน-แคราย ถือเป็นอีกสถานที่หนึ่งที่เหมาะแก่การมา เดินช้อปปิ้งในวันหยุด ให้รางวัลตัวเองที่ทำงานหนักมาทั้งอาทิตย์ ไปที่นี่คือ ครบ จบในที่เดียว มี ร้านค้า หลากหลาย รวมถึง ร้านอาหารมากมาย ที่ทำให้เราอิ่มทั้งช้อป ทั้งอิ่ม ชิลแน่นอน!

    ✨ ที่อยู่ : ตำบลบางกระสอนนทบุรี อำเภอเมือง จังหวัดนนทบุรี
    ⏰ เปิดให้เข้าชม : วันจันทร์ - ศุกร์ 10.30-22.00 น. / วันเสาร์ - อาทิตย์ 10.00-22.30 น.


6.  สถานีวงแหวนรามอินทรา - แฟชั่นไอส์แลนด์

แฟชั่นไอส์แลนด์ ถือเป็นอีกหนึ่ง ห้างสรรพสินค้าที่มีของแทบทุกอย่าง และถือว่าเป็นศูนย์การค้าที่ทำเลดีที่สุดในรามอินทรา ที่นี่มีทั้งหมด 4 ชั้น ในแต่ละชั้นก้จะมีร้านค้าปลีกแตกต่างกันไป ยังไม่พอ ชั้นล่างสุดยังเต็มไปด้วยร้านอาหาร ละลานตาสุดๆ สายช้อป สายชิล มาฟินเดินห้างวันหยุดได้เลย!

    ✨ ที่อยู่ : ถนนรามอินทรา แขวงคันนายาว เขตคันนายาว กรุงเทพฯ
    ⏰ เปิดให้เข้าชม : 10.00-22.00 น.


7. สถานีหลักสี่ - ไอที สแควร์

      ใครที่ต้องการซื้ออุปกรณ์ต่างๆ ที่เกี่ยวกับคอมพิวเตอร์ โทรศัพท์ และอุปกรณ์ไอที ต่างๆ ที่นี่มีจัดเต็มแบบครบเครื่อง แต่ที่นี่ไม่ได้เป็นสถานที่ที่ขายแค่อุปกรณ์ไอทีเท่านั้นนะ เพราะที่นี่มี โซน Foodland ที่เปิดตลอดเวลา มีทั้งร้านอาหารที่หลากหลายมาก ไม่ว่าจะเป็นร้านอาหารเปิดใหม่ ไปจนถึงร้านอาหารดังที่ใครๆ ก็อยากตามมาลอง แถมที่นี่ยังเดินทางสะดวกอีกด้วย

    ✨ ที่อยู่ : 333 ถนนกำแพงเพชร 6 แขวงตลาดบางเขน เขตหลักสี่ กรุงเทพฯ
    ⏰ เปิดให้เข้าชม : 10.00-21.00 น.


8. สถานีวัชรพล - ตลาดนัดเลียบด่วน รามอินทรา

ตลาดนัดเลียบด่วน รามอินทรา เป็นหนึ่งใน ตลาดนัดกลางคืน ในกรุงเทพฯ ที่มีพื้นที่กว้าง และได้รับความนิยมเป็นอันดับต้นๆ เพราะที่นี่มีของกินเพียบ มีร้านอาหารทั้งของคาวและของหวานที่ ครบครัน รับรองว่า ไปที่นี่ ต้องกลับบ้านพร้อมของกินเต็มไม้เต็มมือแน่นอน!

    ✨ ที่อยู่ : 9 ถนนประดิษฐ์มนูญธรรม แขวงท่าแร้ง เขตบางเขน กรุงเทพฯ
    ⏰ เปิดให้เข้าชม : 17.00-02.00 น.

9. สถานีบางชัน - ท้าวเวสสุวรรณ วัดบางชัน

     นอกจากที่เที่ยวที่ได้กล่าวมาแล้ว มาปักหมุดพิกัดสายบุญกันบ้างที่ วัดบางชัน หรือ วัดราษฎร์ศรัทธาธรรม ซึ่งภายในวัดมีสิ่งศักดิ์สิทธิ์มากมาย ไม่ว่าจะเป็น ท้าวเวสสุวรรณ หรือ พระพิฆเนศ และอื่นๆ ที่ สายมูห้ามพลาด! และที่นี่ยังขึ้นชื่อในเรื่องของ "แหล่งรวมท้าวเวสสุวรรณที่มากที่สุดในกรุงเทพฯ" ใครที่นับถือท้าวเวสสุวรรณ หรืออยากจะไหว้ ขอพรท่าน ต้องแวะไปที่นี่ด่วน!

    ✨ ที่อยู่ : 25 หมู่ 5 ถนนพระยาสุเรนทร์ แขวงคันนายาว เขตคันนายาว กรุงเทพฯ
    ⏰ เปิดให้เข้าชม : สามารถเที่ยวชมได้ตลอดทั้งวัน

หน้า: [1] 2 3 ... 61






















































อยากขายของดี
ขายของออนไลน์ยังไงให้มีคนซื้อ
ขายสินค้าไม่สต๊อกสินค้า
เริ่มขายของออนไลน์
รับทำ seo ด่วน
smf โพสฟรี
smf ขายของออนไลน์อะไรดี
smf โพสฟรี
แคปชั่นแม่ค้าออนไลน์ โพสฟรี
โพสฟรีแคปชั่นโพสขายของยังไงให้ปัง
smf แคปชั่นแม่ค้าออนไลน์
ขายของให้ออร์เดอร์เข้ารัว ๆ
smf โพสต์เรียกลูกค้า
โพสต์เรียกลูกค้าโพสฟรี
smf ขายของออนไลน์ให้ปัง
smf โพสต์ขายของ
smf เขียนโพสขายของโดนๆ
แคปชั่นเปิดร้าน โพสฟรี
smf วิธีโพสขายของให้น่าสนใจ
วิธีเพิ่มยอดขาย โพสฟรี
smf เทคนิคเพิ่มยอดขาย
ขายของออนไลน์ยังไงให้มีคนซื้อ
smf เริ่มต้นขายของออนไลน์
ไอ เดีย การขายของออนไลน์
เว็บขายของออนไลน์
เริ่ม ขายของออนไลน์ โพสฟรี
อยากขายของออนไลน์ smf
โพสขายของยังไงให้มีคนซื้อ
smf โพสขายของแบบไหนดี
smf ขายของออนไลน์ที่ไหนดี
เทคนิคการโพสต์ขายของ
smf โพสต์ขายของให้ยอดขายปัง
โพสต์ขายของให้ยอดขายปังโพสฟรี
smf ขายของในกลุ่มซื้อขายสินค้า
ไม่รู้จะขายอะไรดี

เพิ่มยอดขายให้เข้าเป้า
โปรโมทผลักดันยอดขาย
โปรโมทแผนการเพิ่มยอดขายให้ได้ผล
โปรโมทวิธีการวางแผนการเพิ่มยอดขาย
มีลูกค้าเพิ่ม - YouTube
ผลักดันยอดขายโปรโมทฟรี
ประกาศฟรีเพิ่มยอดขาย
ลงประกาศเพิ่มยอดขาย
ฝากร้านฟรีเพิ่มยอดขาย
ลงประกาศฟรีใหม่ ๆ เพิ่มยอดขาย
เว็บประกาศฟรีเพิ่มยอดขาย
Post ฟรี
ประกาศขายของฟรี
ประกาศฟรี
โพส SEO
ลงโฆษณาฟรี
โปรโมทเพจร้านค้า
โปรโมทกระตุ้นยอดขาย
โปรโมทฟรีออนไลน์กระตุ้นยอดขาย
โพสกระตุ้นยอดขาย
วิธีกระตุ้นยอดขาย เซลล์
วิธีแก้ปัญหายอดขายตก
เริ่มต้นขายของ
แหล่งรับของมาขายออนไลน์
ขายของออนไลน์อะไรดี
อยากขายของออนไลน์
ยอดขายไม่ดีควรทำอย่างไร
ยอดขายตกเกิดจากอะไร
ทำไมต้องเพิ่มยอดขาย
ขายฟรี
ยอดการขาย คืออะไร
กลยุทธ์เพิ่มยอดขาย
โพสฟรีการกระตุ้นยอดขาย
เว็บบอร์ดฟรี
โปรโมทฟรี

กลยุทธ์การหาลูกค้าใหม่
ทํายังไงให้ขายของดี ออนไลน์
วิธีการหาลูกค้าของ sale
ทำ SEO ติด Google
ต้องการขาย
ปล่อยเช่า บ้าน คอนโด ที่ดิน
ขายบ้าน คอนโด ที่ดิน
ประกาศฟรี ไม่มี หมดอายุ
เว็บประกาศฟรี ติดอันดับ
ฝากร้านฟรี โพ ส ฟรี
ลงประกาศฟรี กรุงเทพ
ลงประกาศฟรี ทั่วไทย
ลงประกาศโฆษณาฟรี
ลงประกาศฟรี 2023
รวมเว็บลงประกาศฟรี
วิธีหาลูกค้ากลุ่มเป้าหมาย
การหาลูกค้าใหม่ รักษาลูกค้าเก่า
ช่องทางการเข้าถึงลูกค้า
เพิ่มฐานลูกค้าใหม่
รวมเว็บลงประกาศฟรี ล่าสุด
รวมเว็บประกาศฟรี
โพสต์ขายของฟรี
ลงโฆษณาสินค้าฟรี
โฆษณาฟรี
ประกาศฟรี
เว็บฟรีไม่จำกัด
ลงประกาศขาย
เว็บฟรียอดนิยม
โพสโฆษณา
ประกาศขายของ
ประกาศหางาน
บริการ แนะนำเว็บ
ลงประกาศ
รวมเว็บประกาศฟรี
รวมเว็บซื้อขาย ใช้งานง่าย
ลงประกาศฟรี ทุกจังหวัด

โพสขายสินค้าตรงกลุ่มเป้าหมาย
โฆษณาเลื่อนประกาศได้
ขายของออนไลน์
แนะนำ 6 วิธีขายของออนไลน์
อยากขายของออนไลน์
เริ่มต้นขายของออนไลน์
ขายของออนไลน์ เริ่มยังไง
ชี้ช่องขายของออนไลน์
การขายของออนไลน์
สร้างเว็บฟรีประกาศ
เว็บบอร์ด โพสต์ฟรี
ลงประกาศ ซื้อ-ขาย ฟรี
ชุมชนคนไอทีขายสินค้า
ลงประกาศฟรีใหม่ๆ 2023
โปรโมทธุรกิจฟรี
ทําไงให้ลูกค้าเข้าร้านเยอะ ๆ
กลยุทธ์เพิ่มยอดขาย
เคล็ดลับขายของดี
ค้าขายไม่ดีทำอย่างไรดี
งานโพสโปรโมทงาน
ทํายังไงให้ขายของดี ออนไลน์
รวม SMFขายสินค้า
ประกาศฟรีออนไลน์
ลงประกาศ สินค้า
ลงประกาศฟรี เว็บบอร์ด
เว็บบอร์ดขายสินค้าฟรี
ฟรี เว็บบอร์ด แรงๆ
โปรโมทสินค้าฟรี
แจกฟรี รายชื่อเว็บลงประกาศฟรี
โปรโมท Social
โปรโมท youtube
แจกฟรี รายชื่อเว็บ
แจกฟรีโพสเว็บบอร์ดsmf
เว็บบอร์ดsmfโพสฟรี
รายชื่อเว็บบอร์ดขายสินค้าฟรี
หากลยุทธ์เพิ่มยอดขาย