บริการทำความสะอาด: ทำความสะอาดบ้านใหม่ ให้ไร้กลิ่นวิธี ทำความสะอาดบ้านใหม่ ที่รอมานาน ในที่สุด การก่อสร้างบ้าน อันยาวนานก็เสร็จสิ้น แต่เดี๋ยวก่อน!!! ยังไม่จบ งานก่อสร้างเสร็จแล้ว ไม่ได้หมายความว่า คุณจะย้ายเข้าไปอยู่ได้เลย เพราะยังมีขั้นตอนสำคัญเหลืออยู่ นั่นคือ การ ทำความสะอาดบ้านใหม่ เพราะการก่อสร้างทุกด้าน นำไปสู่ฝุ่นละออง จำนวนมหาศาล
การ ทำความสะอาดบ้านใหม่ หลังการก่อสร้างเป็นเรื่องที่ค่อนข้างยุ่งยาก โดยเฉพาะการกำจัดฝุ่นที่ไม่จบสิ้น และการกำจัดกลิ่น ที่ไม่ใช่แค่กลิ่น แต่มาพร้อมสารที่เป็นอันตรายต่อร่างกาย หากสูดดมมากเกินไป เช่น ฟอร์มาลดีไฮด์
ทำความสะอาดบ้านใหม่ อย่างไรให้ ปลอดกลิ่น และไร้ฝุ่น
1. กำจัดฝุ่นก่อน การสูดดมฝุ่นเข้าไปมากๆ สามารถทำให้ระบบทางเดินหายใจโดยเฉพาะปอดของเราทำงานหนัก ดังนั้น ฝุ่นจึงเป็นสิ่งสกปรกอันดับแรก ที่ควรต้องกำจัดในการทำความสะอาดบ้านใหม่ ใช้เครื่องดูดฝุ่น เพื่อไม่ให้ฝุ่นฟุ้งกระจายไปทั่วบ้าน แล้วเช็ดตาม ด้วยผ้าสะอาดชุบน้ำเช็ดตามส่วนต่างๆ เพื่อกำจัดฝุ่นขนาดเล็ก จากบนลงล่าง จากนั้นถูพื้น เป็นลำดับสุดท้าย
2. ฆ่าเชื้อ บ้านใหม่อาจมีเชื้อโรคอาศัยอยู่ เพราะในระหว่างก่อสร้างนั้นมีทั้งฝุ่น และสิ่งสกปรกอื่นๆ สะสมมานาน แม้ผู้รับเหมาจะทำความสะอาดให้คุณแล้วตอนส่งมอบบ้าน แต่ในบางพื้นที่ของบ้าน ก็ต้องการความสะอาด แบบปราศจากเชื้อ ก่อนเริ่มใช้งาน เช่น ห้องครัว และห้องน้ำ โดยเฉพาะ อ่างล้างจาน เคาเตอร์ ฝักบัว อ่างอาบน้ำ ก๊อกน้ำ ชักโครก นอกจากนั้น ควรฆ่าเชื้อบริเวณที่อาจมีการใช้งานบ่อยในระหว่างการก่อสร้าง เช่น มือจับประตู และราวจับต่างๆ
3. กำจัดกลิ่น บ้านที่เพิ่งสร้างเสร็จ จะมีกลิ่นจากสารระเหยที่อยู่ในวัสดุที่ใช้ในการสร้างบ้าน หลายชนิด เช่น ทินเนอร์, กาว, ปูน, พลาสติก, ไม้อัด,น้ำยาเคลือบพื้นผิว, สีทาบ้าน เป็นต้น ที่มีส่วนประกอบ ของสารที่สามารถระเหยเป็นก๊าซพิษ เช่น ฟอร์มาลดีไฮด์ ที่หากสูดดมมากเกินไป จะเป็นอันตรายต่อร่างกายได้ โดย ฟอร์มาลดีไฮด์อาจทำให้เกิดปัญหาเกี่ยวกับระบบทางเดินหายใจ และระบบประสาท เช่น ไอ เจ็บคอ แน่นหน้าอก เวียนหัว คลื่นไส้ อ่อนเพลีย หายใจลำบาก ง่วงนอน และอาการอื่นๆ ส่วนในระยะยาวอาจร้ายแรงกว่า ถึงขั้นเป็นมะเร็ง
แม้ว่าปริมาณของฟอร์มาลดีไฮด์ หรือก๊าซพิษอื่น ๆ จากบ้านใหม่ อาจไม่สูงพอที่จะก่อให้เกิดปัญหาสุขภาพที่ร้ายแรง แต่ก็ไม่ควรสูดดมเข้าไปทุกวัน คุณจึงควรกำจัดมันออกไปให้ไวที่สุด
ระบายอากาศ วิธีที่ง่ายที่สุดในการระบายอากาศ คือ เปิดหน้าต่าง และประตูทิ้งไว้ ให้มากที่สุดเท่าที่จะทำได้ จนกว่ากลิ่นจะหมดไป วิธีนี้จะช่วยให้อากาศภายในบ้านสามารถหมุนเวียนกับอากาศภายนอกได้ แล้วใช้พัดลมช่วยดูดอากาศออกไปข้างนอก เพื่อระบายกลิ่นและสารอันตรายให้ไวขึ้น ในช่วงแรกต้องพยายามระบายอากาศให้ได้มากที่สุด ไม่อย่างนั้นสารที่ระเหยออกมา จะถูกดูดซับกลับเข้าสู่ข้าวของเครื่องใช้ภายในบ้าน และจะถูกปล่อยออกมาใหม่เมื่อเวลาผ่านไป
ใช้เครื่องฟอกอากาศ หากคุณจำเป็นต้องย้ายเข้าไปอยู่บ้านใหม่โดยที่กลิ่นสียังตลบอบอวล โดยเฉพาะห้องนอนที่จะต้องทำให้ปราศจากสารพิษมากที่สุด อาจต้องใช้เครื่องฟอกอากาศเข้าช่วย เพื่อให้อากาศปลอดโปร่งขึ้น เลือกแบบที่สามารถเคลื่อนย้ายได้สะดวก เพื่อให้คุณสามารถยกไปได้ทุกห้อง
กำจัดกลิ่นด้วยวิธีธรรมชาติ
ใช้ถ่านไม้ไผ่ วางถ่านไม้ไผ่วางไว้ตามห้องต่างๆ เพราะถ่านไม้สามารถดูดซับสารเคมีอันตราย ความชื้นในอากาศ และกลิ่นได้อย่างมีประสิทธิภาพ บ้านของคุณก็จะทั้งสะอาดและปราศจากกลิ่น
ใช้พืช นอกจากมีประโยชน์ในด้านความสวยงามและใช้ในการตกแต่งบ้าน พืชยังมีกระบวนการสังเคราะห์แสงที่ช่วยดูดซับคาร์บอนไดออกไซด์ให้อากาศสะอาดขึ้น ยิ่งไปกว่านั้น พืชบางชนิดยังสามารถดูดซับสารเคมี และสารพิษที่เป็นอันตรายภายในอาคาร โดยเฉพาะฟอร์มาลดีไฮด์ได้อีกด้วย
ใช้พืชผักสวนครัว มีผักสวนครัวหลายชนิดที่สามารถช่วยกำจัดกลิ่นสีในบ้านให้หมดไป ได้แก่ มะกรูด มะนาว ตะไคร้ หัวหอม
ใช้น้ำ ให้นำภาชนะใส่น้ำไปวางไว้ตามจุดต่างๆ ของบ้าน และคอยเปลี่ยนน้ำทุกวัน นอกจากช่วยดูดซับกลิ่นตกค้างภายในบ้านแล้ว การระเหยของน้ำยังช่วยปกป้องผนังและพื้นผิวเคลือบไม่ให้แตกอีกด้วย
ถุงชา แขวนถุงชาไว้ตามห้องต่างๆ ในบ้าน อาจเติมน้ำมันหอมระเหยลงบนถุงชาหนึ่งหรือสองหยดเพื่อปรับอากาศให้มีกลิ่นหอมขึ้น
เบกกิ้งโซดา นำเบกกิ้งโซดา, ดอกไม้แห้งหอมๆ เช่น ดอกลาเวนเดอร์กับและ น้ำมันหอมระเหย มาผสมให้เข้ากัน ใส่ลงในขวดที่มีฝาปิดและเจาะรูบนฝาขวดให้กลิ่นสามารถระเหยออกมาได้ แล้ว นำไปวางไว้ตามมุมต่างๆ ในบ้าน
เลือกใช้บริการทำความสะอาด หากคุณต้องการให้บ้านทั้งสะอาดและปราศจากกลิ่นอย่างสมบูรณ์ พร้อมเข้าอยู่ได้อย่างสบายใจ การเลือกใช้บริการผู้เชี่ยวชาญด้านการทำความสะอาด ก็เป็นอีกทางเลือกหนึ่งที่ดี